รัฐบาลอิรักระดมกำลังร่วมโจมตี เปิดฉากปฏิบัติการชิงเมืองฟัลลูจาห์

เอเจนซีส์ – นายกรัฐมนตรี ไฮเดอร์ อัล-อบาดี ประกาศเริ่มปฏิบัติการทางทหารเพื่อชิงเมืองฟัลลูจาห์ คืนจากไอเอส ซึ่งจะถือเป็นหนึ่งในการรบดุเดือดที่สุดระหว่างแบกแดด กับ กลุ่มรัฐอิสลาม หลังจากแจ้งเตือนประชาชนให้หนีออกจากเมืองตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22)

อบาดี ประกาศในวันจันทร์ (23) เริ่มต้นปฏิบัติการปลดปล่อยฟัลลูจาห์ ซึ่งอยู่ในจังหวัดอันบาร์ โดยใช้กองกำลังผสมระหว่างกองทัพ ตำรวจ กองกำลังต่อต้านการก่อการร้าย นักรบชีอะห์ และชนเผ่าที่สนับสนุนรัฐบาล โดยคาดว่ากองกำลังพันธมิตรที่นำโดยอเมริกาจะให้การสนับสนุนทางอากาศ

ฟัลลูจาห์ที่อยู่ห่างจากแบกแดดทางตะวันตก 50 กม. เป็นเมืองแรกของอิรักที่ถูกกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ยึดได้เมื่อเดือนธันวาคม 2014 หรือ 6 เดือน ก่อนที่กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้จะประกาศสถาปนารัฐอิสลามครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางในอิรัก และ ซีเรีย

เจ้าหน้าที่อิรัก เผยว่า นักรบชีอะห์ ซึ่งรวมถึงกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน จะถูกจำกัดวงให้ปฏิบัติการนอกเมืองฟัลลูจาห์เช่นเดียวกับตอนสู้รบชิงเมืองรามาดี เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างลัทธิ เนื่องจากชาวเมืองส่วนใหญ่นับถือนิกายสุหนี่

การประกาศของอบาดีเป็นการตอบข้อสงสัยที่ว่า อิรักจะทวงคืนเมืองใดจากไอเอสเป็นเมืองต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงมานานระหว่างเจ้าหน้าที่อิรัก และกองกำลังนานาชาติที่ช่วยต่อสู้กับไอเอส

อเมริกานั้นเสนอเป้าหมายเมืองโมซุล เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัก แต่กลุ่มนักรบทรงอิทธิพลชาวอิรัก ช่วยตอบคำถามนี้ด้วยการส่งคนเข้าร่วมในการเตรียมพร้อมยึดเมืองฟัลลูจาห์

นอกจากนั้น แม้กองกำลังอิรักเริ่มวางกรอบโครงสำหรับการชิงโมซุลคืน แต่มีความคืบหน้าน้อยมาก การจู่โจมเมืองโมซุลจึงถือว่ายังอีกไกล ขณะที่กองทัพ ตำรวจ และนักรบอิรักที่ได้รับการสนับสนุนทางอากาศจากกองกำลังพันธมิตร เข้าล้อมฟัลลูจาห์มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

สัปดาห์ที่แล้ว กองกำลังพันธมิตรต่อต้านไอเอสที่นำโดยอเมริกาโจมตีที่มั่นของไอเอสในฟัลลูจาห์ 7 ระลอก อิรักเองก็ร่วมถล่มด้วยเครื่องบินเอฟ-16 ที่วอชิงตันจัดหาให้

ชาฟัค เว็บไซต์ข่าวที่สนับสนุนกลุ่มเคิร์ด และมีฐานอยู่ในแบกแดด รายงานเมื่อวันอาทิตย์ ว่า ตำรวจเกือบ 20,000 นาย เดินทางถึงชานเมืองฟัลลูจาห์แล้ว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี

วันเดียวกันนั้น กองบัญชาการปฏิบัติการร่วมของอิรักเตือนพลเรือนที่ยังอยู่ในฟัลลูจาห์ให้ออกจากเมือง หรือถ้าออกไม่ได้ ให้ชักธงขาวบอกตำแหน่งไว้ รวมทั้งอยู่ให้ไกลจากศูนย์บัญชาการและแหล่งซ่องสุมของไอเอส

ฟาลีห์ อัล-เอสซาวี รองประธานสภาเขต เผยว่า จะเปิดพื้นที่ 3 ส่วนทางตะวันตก ตะวันตกเฉียงใต้ และ ตะวันตกเฉียงเหนือ ของเมืองฟัลลูจาห์ ให้ประชาชนเข้าไปตั้งแคมป์ ขณะเดียวกัน กองทัพอิรักแถลงว่า ชาวบ้านหลายสิบครอบครัวหนีออกจากเมืองแล้ว แต่พวกไอเอสพยายามขัดขวางไม่ให้ประชาชนจำนวนมากเล็ดรอดออกมา นอกจากนั้น กองกำลังรอบฟัลลูจาห์ยังถูกกล่าวหาว่า ขัดขวางการส่งอาหารเข้าไปให้ประชาชนที่ยังติดอยู่ในเมือง

เอสซาวียังเปิดเผยกับสถานีทีวีท้องถิ่นว่า พลเรือนกว่า 75,000 คน ยังติดอยู่ในฟัลลูจาห์ ใกล้เคียงกับที่กองทัพอเมริกันประเมินไว้ที่ 60,000 - 90,000 คน

ซาอัด อัล-ฮาดิตี โฆษกของอบาดี กล่าวว่า การปลดปล่อยฟัลลูจาห์จะช่วยฟื้นคืนสภาพชีวิตปกติให้แก่จังหวัดอันบาร์ที่ไอเอสเข้ายึดครองเกือบสมบูรณ์ตั้งแต่ปี 2014

นอกจากนั้น หากยึดฟัลลูจาห์คืนได้ จะทำให้อิรักสามารถควบคุมถนนที่มีระยะทางกว่า 500 กิโลเมตรจากแบกแดดสู่ชายแดนติดกับจอร์แดน และสู่เมืองฮาดิตาทางตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างจากเมืองหลวงของอิรัก 190 กิโลเมตร

ฟัลลูจาห์ และ โมซุล เมืองเอกของจังหวัดไนเนเวห์ คือ เมืองใหญ่สองเมืองสุดท้ายของอิรักที่ยังอยู่ภายใต้การยึดครองของไอเอส

กองกำลังอเมริกันเคยโจมตีฟัลลูจาห์ครั้งใหญ่ในปี 2004 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการรบครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามเวียดนาม

สำหรับการชิงคืนฟัลลูจาห์ครั้งนี้ กองกำลังอิรักได้เปรียบตรงที่คุ้นเคยกับพื้นที่มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้นักรบชนเผ่าที่สนับสนุนรัฐบาลอันบาร์ แต่จุดอ่อนก็คือขาดแคลนการฝึกฝนและอาวุธที่ทรงพลัง