รอยเตอร์ - ผู้ประท้วงหลายพันคนออกมาเดินขบวนภายใต้การอารักขาของตำรวจจำนวนมากในกรุงปารีสเมื่อวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ ออลลองด์ ยกเลิกแผนปฏิรูปแรงงานที่กระพือการชุมนุมต่อต้านมานานหลายเดือน ซึ่งบางครั้งก็เลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรง
ตำรวจมากกว่า 2,000 นายบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้นรอบๆ จัตุรัสปลาซ เดอ ลา บาสตีย์ของเมืองหลวงเพื่อควบคุมการเดินขบวน โดยมีการตรวจค้นกระเป๋าและห้ามคนที่สวมหมวกกันน็อกหรือหน้ากากเข้าร่วม
เจ้าหน้าที่เผยว่ามีคนถูกจับกุมตัว 85 รายระหว่างที่ฝูงชนมาบรรจบกันที่โซนเดินขบวน
เบื้องต้นรัฐบาลโซเชียลิสต์ห้ามเดินขบวน แต่ด้วยที่เผชิญกับแรงตีกลับในทางลบจากฐานเสียงดั้งเดิมของพวกเขาทำให้ต้องกลับลำอนุญาตให้มีการชุมนุม
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ ออลลองด์เผยว่า รัฐบาลของเขาจะไม่ถอนกฎหมายแรงงานที่จะช่วยให้นายจ้างสามารถจ้างงานและปลดคนงานง่ายขึ้น ในความพยายามจัดการกับอัตราคนว่างงานที่สูงลิ่วอยู่ในระดับราาวๆ 10 เปอร์เซ็นต์ตลอดช่วงเวลาที่เขาอยู่ในตำแหน่ง
แม้เผชิญหน้ากันมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีฝ่ายไหนยอมถอยและยอมเสียหายเกี่ยวกับแผนปฏิรูป ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆ พบว่าชาวฝรั่งเศสมากกว่า 2 ใน 3 คัดค้านร่างกฎหมายนี้
การเดินขบวนล่าสุดเป็นบททดสอบสำคัญของตำรจที่ต้องแบกรับภาระหนักอยู่ก่อนแล้วภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่บังคับใช้มาตั้งแต่เหตุอิสลามิสต์โจมตีนองเลือดกรุงปารีสในเดือนพฤศจิกายน ปีก่อน ขณะเวลานี้ฝรั่งเศสก็กำลังเป็นเจ้าภาพจัดศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2016)
เหตุประท้วงก่อนหน้านี้มัวหมองไปด้วยสถานการณ์ความวุ่นวายจากฝีมือของกลุ่มวัยรุ่นสวมหน้ากากหลายร้อยคนที่ปะทะกับตำรวจ ขว้างปาก้อนหิน ทุบทำลายกระจกร้านค้า และพ่นสีเขียนคำขวัญต่อต้านทุนนิยมตามอาคารต่างๆ