เอพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - วันนี้ (15 มิ.ย.) ปักกิ่งประกาศห้ามการส่งออกสินค้าเทคโนโลยี และสิ่งที่อาจถูกนำไปใช้พัฒนาเป็นอาวุธต่อได้ ให้กับเกาหลีเหนือ ลงโทษเปียงยางทำการทดสอบนิวเคลียร์ล่าสุด ในขณะที่สถาบันเพื่อวิทยาศาสตร์ และความมั่นคงระหว่างประเทศ (Institute for Science and International Security) ที่มีฐานในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้วิเคราห์ เชื่อว่า ในขณะนี้เกาหลีเหนือน่าจะมีระเบิดนิวเคลียร์ไว้ในความครอบครองไม่ต่ำกว่า 21 ลูก
เอพีรายงานวันนี้ (15 มิ.ย.) ว่า การประกาศลงโทษจากปักกิ่งมหามิตรของเปียงยางมีขึ้นในวันพุธ (15 มิ.ย.) หลังจากที่ทางจีนถูกกดดันอย่างหนักจากสหรัฐฯ และประชาคมโลกที่ได้ประกาศคว่ำบาตรทางการค้ากับเกาหลีเหนือก่อนหน้านี้
และเป็นผลทำให้ปักกิ่งตัดสินใจประกาศคว่ำบาตรการส่งออกสินค้าเทคโนโลยี และสิ่งที่เกาหลีเหนือสามารถนำไปพัฒนาเป็นอาวุธได้ เพื่อลงโทษเปียงยางในการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งล่าสุด ซึ่งเอพีรายงานว่า ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งองค์การสหประชาชาติที่ 2270 ได้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรด้านการเงินต่อเกาหลีเหนืออีกครั้ง ที่จีนซึ่งเป็นพี่เบิ้มใหญ่ได้ยอมลงนามข้อตกลงคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ เพื่อตอบโต้การทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 ของเกาหลีเหนือ ส่งสัญญาณแสดงให้เห็นความอดทนที่เริ่มหมดไปของทางปักกิ่ง เอพีชี้
เอพีรายงานต่อว่า ทั้งนี้ ในประกาศการสั่งห้ามส่งออกตามรายชื่อสินค้าที่เชื่อว่า สามารถถูกใช้ได้ใน 2 ด้าน หรือ “dual use” ในทั้งภาคพลเรือนและภาคการทหาร ซึ่งสินค้าต้องห้ามเหล่านี้รวมไปถึง โลหะอัลลอยด์ เครื่องจักรหนักสำหรับการตัด และการเชื่อมด้วยแสงเลเซอร์ และสิ่งที่เชื่อว่าจะสามารถนำไปผลิตเป็นอาวุธเคมี รายงานจากแถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีน
และในสถานการณ์ที่เกาหลีเหนือถูกปักกิ่งคว่ำบาตร เนื่องมาจากการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ สถาบันเพื่อวิทยาศาสตร์ และความมั่นระหว่างประเทศ (Institute for Science and International Security) ที่มีฐานในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ออกรายงานวิเคราะห์ล่าสุด จากการรายงานของเจแปนไทม์ส สื่อญี่ปุ่น ชี้ว่า ในขณะนี้เป็นที่เชื่อได้ว่า เปียงยางน่าจะมีระเบิดนิวเคลียร์ไว้ในความครอบครองไม่ต่ำกว่า 21 ลูก
โดยธิงแทงก์สหรัฐฯ ชี้ว่า เชื่อว่า ทางเปียงยางน่าจะมีอาวุธระเบิดนิวเคลียร์เพิ่มขึ้นอีก 4 - 6 ลูก จากแต่เดิมก่อนหน้านี้ ที่มีการประเมินว่า เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ทั้งสิ้นราว 10 - 16 ลูกในช่วงสิ้นปี 2014
สื่อญี่ปุ่นชี้ว่า ในรายงานของสถาบันการศึกษาสหรัฐฯได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้เกาหลีเหนือมีจำนวนอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด น่าจะมาจากการผลของความก้าวหน้าในการผลิตที่ได้จากการใช้พลังงานนิวเคลียร์ที่ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ Nyongbyon ของเปียงยาง
และทำให้สถาบันเพื่อวิทยาศาสตร์ และความมั่นระหว่างประเทศของสหรัฐฯ เชื่อว่า ในขณะนี้เปียงยางน่าจะมีอาวุธนิวเคลียร์ในความครอบครองราว 13 - 21 ลูก แต่กระนั้นในรายงานฉบับนี้ยังชี้ต่อว่า แต่อาจจะเป็นไปได้ว่า อาวุธนิวเคลียร์ในคลังอาวุธของเกาหลีเหนือมีไม่ต่ำกว่า 21 ลูกในปัจจุบัน เนื่องมาจากความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะเปิดโรงงานกลั่นแห่งที่ 2 ใช้งาน โดยในเดือนสิงหาคม 2015 สถาบันธิงแทงก์ IHS Janes ได้รายงานภาพถ่ายผ่านดาวเทียมที่ชี้ว่า เกาหลีเหนือได้เปิดโรงงานแห่งที่ 2 ใน Nyongbyon ให้เริ่มทำงานแล้ว
เจแปนไทม์สรายงานเพิ่มเติมว่า ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ รอยเตอร์ได้รายงานถึงแหล่งข่าวสหรัฐฯ ที่ได้เปิดเผยว่า ทางเปียงยางประสบความสำเร็จสามารถแยกพลูโตเนียมในห้องทดลองวิทยาศาสตร์ได้แล้ว ซึ่งสิ่งนี้สามารถถูกนำมาพัฒนาเพื่อเป็นอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป
และในรายงานของธิงแทงก์สหรัฐฯ ยังชี้ต่อว่า มีความเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีแฟซิลิตี (facility)ในการแยกไอโซโทป (isotope) ที่ไซต์แห่งนี้ แต่ทว่าเป้าหมายที่แท้จริง และปฎิบัติการของศูนย์ใหม่แห่งนี้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ได้มีการวิเคราะห์ ที่เชื่อได้ว่า สถานที่แห่งนี้อาจนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อการแยกทริเทียม (tritium) สำหรับสร้างอาวุธเทอร์โมนิวเคลียร์ (thermonuclear) ที่ทางเกาหลีเหนือได้ประกาศ จะพัฒนาขึ้นมาให้สำเร็จ ซึ่งเป็นอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งใช้พลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชันปฐมภูมิ เพื่อบีบอัดและจุดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันทุติยภูมิ ผลลัพธ์ทำให้อำนาจระเบิดเพิ่มขึ้นมหาศาลเมื่อเทียบกับอาวุธฟิชชันขั้นตอนเดียว รู้จักในนาม ระเบิดไฮโดรเจน หรือเอชบอมบ์