เอเจนซีส์ - พรรคอนุรักษนิยมอังกฤษร้าวลึกระหว่างการเตรียมทำประชามติเรื่องจะอยู่กับอียูต่อหรือไม่ โดยฝ่ายหนุน “เบร็กซิต” ที่สนับสนุนให้อังกฤษออกจากอียูลุกขึ้นมาโจมตีเรื่องส่วนตัวและความน่าเชื่อถือของนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน หนักข้อขึ้น
บอริส จอห์นสัน อดีตนายกเทศมนตรีนครลอนดอน ยืนยันว่า คาเมรอนทำให้ความไว้ใจในตัวนักการเมืองในสายตาประชาชน “ถูกกัดกร่อน” ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการจ้างงาน พริตี พาเทล กล่าวหาบรรดาผู้นำที่ยังติดไลฟ์สไตล์ “หรูหรา” อย่างคาเมรอนว่า รวยเกินกว่าจะใส่ใจความกังวลของประชาชนเรื่องผู้อพยพ
กลุ่มที่สนับสนุนให้อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) เดินสายให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ฉบับวันอาทิตย์ (29) อย่างเผ็ดร้อน เริ่มจากไมเคิล โกฟ รัฐมนตรียุติธรรมที่บอกผ่านซันเดย์ไทมส์ว่า “คำเตือนแนวพยากรณ์” ของคาเมรอนเกี่ยวกับเบร็กซิตจะทดสอบความน่าเชื่อถือของตัวนายกรัฐมนตรีเอง หากสถานการณ์กลับกลายเป็นตรงกันข้าม
นอกจากนั้น ในจดหมายเปิดผนึกที่ตีพิมพ์ในซันเดย์ไทมส์ โกฟและจอห์นสันยังกล่าวหาคาเมรอนว่าล้มเหลวในการเจรจาต่อรองกับบรัสเซลส์ พร้อมเรียกร้องให้คาเมรอนพูดความจริงว่า การอยู่ในอียูต่อจะมีผลอย่างไรต่อมาตรการควบคุมชายแดนและอำนาจของผู้พิพากษาต่างชาติที่มีเหนือสหราชอาณาจักร
จดหมายดังกล่าวยังโจมตีว่า คำสัญญาซ้ำแล้วซ้ำเล่าระหว่างการหาเสียงในการลดจำนวนการรับผู้อพยพเหลือเพียงหลักหมื่นคนไม่มีทางเป็นจริงได้ ตราบที่สหราชอาณาจักรยังคงเป็นสมาชิกอียู และการไม่สามารถรักษาสัญญาได้จะกัดกร่อนความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อนักการเมือง
นอกจากนั้น ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 25 วันในการลงประชามติ พาเทลยังวิจารณ์เหล่าผู้นำที่สนับสนุนให้อังกฤษคงอยู่ในอียูอย่างคาเมรอนและจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลัง โดยไม่ระบุชื่อผ่านซันเดย์เทเลกราฟว่า น่าละอายสำหรับผู้ที่เป็นแกนนำการรณรงค์สนับสนุนอียูที่เพิกเฉยต่อผลประโยชน์ของส่วนรวม
ด้านโกฟถลุงซ้ำว่า คาเมรอนโกหกที่ยืนกรานว่าตุรกีจะไม่ได้ร่วมเป็นสมาชิกอียู รวมทั้งตอบโต้ข้อกล่าวหาว่ากลุ่มหนุนเบร็กซิตใช้อคติเป็นเครื่องมือ
ขณะที่สงครามปากดุเด็ดเผ็ดร้อนขึ้นเรื่อยๆ เซอร์จอห์น เมเจอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีจากพรรคอนุรักษนิยม ได้กล่าวหากลุ่มที่สนับสนุนการถอนตัวว่าโกหกเกี่ยวกับต้นทุนการอยู่ในอียูต่อ ตลอดจนถึงผลประโยชน์ที่อังกฤษจะได้รับจากการเจรจาต่อรองใหม่ ทั้งยังระบุว่า กลุ่มเบร็กซิตอวดอ้างสถิติเท็จและสถานการณ์ที่ไม่มีแนวโน้มเกิดขึ้นเพื่อทำให้ประชาชนตื่นกลัว ซึ่งถือเป็นการเอาอนาคตของประเทศชาติมาเสี่ยงโดยไม่อาจอภัยให้ได้
ความแตกแยกที่ปรากฏชัดเจนในพรรคอนุรักษนิยมมีขึ้นขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นที่อิปโซส์ โมริจัดทำให้หนังสือพิมพ์ ดิ อ็อบเซิร์ฟเวอร์ ดูจะเป็นใจให้คาเมรอน เนื่องจากพบว่าในบรรดานักเศรษฐศาสตร์กว่า 600 คน ซึ่งถือเป็นการสำรวจความคิดเห็นขนาดใหญ่ที่สุดในภาคส่วนนี้นั้น มีถึง 88% ที่เชื่อว่าการถอนตัวจากอียูและระบบตลาดเดียวมีแนวโน้มสูงสุดที่จะทำให้แนวโน้มการเติบโตของอังกฤษในช่วง 5 ปีข้างหน้าได้รับความเสียหาย รวมทั้งส่งผลลบต่อรายได้ในครัวเรือนของประชาชน และ 61% คิดว่าจะกระตุ้นการปลดพนักงาน
นอกจากนั้น อดีตนายกรัฐมนตรี โทนี แบลร์จากพรรคแรงงาน ยังเตือนผู้มีสิทธิออกเสียงที่กำลังชั่งใจจะเลือกเบร็กซิตผ่านซันเดย์ไทมส์ว่า “ถ้าไม่แน่ใจ จงอย่าทำ” เนื่องจากการถอนตัวจะเท่ากับ “การทรยศต่อผลประโยชน์ของอังกฤษ”
กระนั้น แอนดริว บริดเจน สมาชิกรัฐสภาจากพรรคอนุรักษนิยมทิ้งท้ายว่า คาเมรอน “จบเห่แล้ว” ในฐานะผู้นำพรรค เนื่องจากเทคนิคการโหมกระพือความกลัวทำให้พรรคแตกแยกอย่างหนักในขณะนี้