xs
xsm
sm
md
lg

“อียู” กำลังอยู่บนเส้นทางสู่ความล้มเหลวอย่างเดียวกับ “ฮิตเลอร์” ผู้นำการเรียกร้องให้อังกฤษ “ลาออก” ระบุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>บอริส จอห์นสัน อดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน  ยกมือชู “คอร์นิช ปาสตี” ที่เป็นอาหารกลางวันของเขา ขณะอยู่ที่รถบัส “Vote Leave” ซึ่งเขาใช้รณรงค์เรียกร้องให้อังกฤษออกเสียงถอนตัวจากอียู  ในเมืองทรูโร เมื่อวันพุธ (11 พ.ค.) ที่ผ่านมา  ซันเดย์ เทเลกราฟ ฉบับวันนี้ (15 พ.ค.) ระบุว่า จอห์นสันให้สัมภาษณ์ว่า อียูอยู่บนเส้นทางแห่งความล้มเหลวเช่นเดียวกันกับ ฮิตเลอร์, นโปเลียน </i>
รอยเตอร์/MGRออนไลน์ - บอริส จอห์นสัน ผู้เป็นตัวเก็งจะสืบทอดตำแหน่งต่อจากนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน และก็กำลังกลายเป็นผู้นำของขบวนการรณรงค์ให้อังกฤษ “ออก” จากสหภาพยุโรป (อียู) ก่อนหน้าการลงประชามติในเรื่องนี้ในเดือนหน้า ได้ให้สัมภาษณ์แบบทิ้งบอมบ์ลูกเบ้อเริ่ม โดยระบุว่า อียูกำลังเดินอยู่บนเส้นทางของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และนโปเลียน ด้วยการพยายามก่อตั้ง “รัฐเหนือรัฐ” (superstate) แห่งยุโรปขึ้นมา

จอห์นสัน บอกต่อหนังสือพิมพ์ซันเดย์ เทเลกราฟ ซึ่งก็คือฉบับวันอาทิตย์ของเดลี่ เทเลกราฟ ว่า อียูนั้นขาดไร้ทั้งความเป็นประชาธิปไตย และขาดไร้ทั้งอำนาจความน่าเชื่อถือที่สามารถทำให้เกิดความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน และดังนั้น จึงกำลังมุ่งหน้าไปสู่ความล้มเหลว

“นโปเลียน, ฮิตเลอร์, คนอื่นๆ อีกหลายหลากได้เคยพยายามทำเรื่องนี้กันมาแล้ว และมันก็จบลงด้วยโศกนาฏกรรม” ซันเดย์ เทเลกราฟ ฉบับวันที่ 15 พ.ค. อ้างคำให้สัมภาษณ์ของจอห์นสัน

“อียู เป็นความพยายามที่จะทำเรื่องนี้ด้วยวิธีการที่แตกต่างออกไป ทว่า โดยพื้นฐานแล้ว สิ่งที่กำลังขาดอยู่ก็เป็นปัญหาอมตะนิรันดรกาลปัญหาเดิม ซึ่งก็คือ แนวความคิดว่าด้วยยุโรป (ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน) นั้น ไม่ได้มีความจงรักภักดีคอยพยุงหนุนอยู่ข้างใต้” นักการเมืองสังกัดพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ผู้เป็นอดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนที่ได้รับความนิยมชื่นชอบอย่างสูงผู้นี้ระบุ

“(อียู) ไม่มีอำนาจความน่าเชื่อถือแม้สักอย่างเดียวที่ใครๆ ต่างให้ความเคารพ หรือใครๆ ต่างเข้าอกเข้าใจ สภาพเช่นนี้กำลังทำให้อียูกลายเป็นโมฆะทางประชาธิปไตยอย่างร้ายแรงยิ่ง”

จอห์นสัน ซึ่งถือเป็นตัวเก็งคนหนึ่งที่จะได้สืบทอดอำนาจต่อจากนายกรัฐมนตรีคาเมรอน ได้ประกาศตัวสนับสนุนฝ่ายรณรงค์ให้อังกฤษ “ออก” (out) จากอียู และกำลังกลายเป็นเสียงสำคัญที่สุดของฝ่ายนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้าการจัดลงประชามติของอังกฤษว่าจะยังอยู่ หรือจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ในวันที่ 23 มิถุนายน
<i>นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน พูดปราศรัยในการรณรงค์สนับสนุนให้อังกฤษเป็นสมาชิกอียูต่อไป ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองวิตนีย์ ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อวันเสาร์ (14 พ.ค.) </i>
ขณะที่ คาเมรอน คือผู้ซึ่งกำลังนำขบวนการรณรงค์ให้อังกฤษ “อยู่” (in) ในอียูต่อไป โดยระบุว่าการที่อังกฤษยังเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ทำให้ประเทศมีความมั่นคงยิ่งขึ้น, มีอิทธิพลสูงขึ้น และมีความมั่งคั่งรุ่งเรืองมากขึ้น เขากล่าวยืนยันด้วยว่า อังกฤษซึ่งจนถึงเวลานี้ก็ยังไม่ได้เข้าร่วมใช้สกุลเงิน “ยูโร” เป็นส่วนหนึ่งของยูโรโซน จะไม่ถูกดึงลากให้เข้าไปอยู่ในสหภาพยุโรปที่รัฐสมาชิกทั้งหลายต้องสัมพันธ์โยงใยกันอย่างแนบแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ทว่า ตามรายงานผลการสำรวจความคิดเห็นฉบับหนึ่งซึ่งเผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ (14) บ่งชี้ให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิออกเสียงที่เชื่อว่าจอห์นสัน เป็นผู้ที่น่าจะพูดความจริงเกี่ยวกับอียูมากกว่านั้น มีจำนวนเป็นสองเท่าตัวของผู้ที่เชื่อคาเมรอนทีเดียว

ขณะที่โพลสำนักอื่นๆ บอกว่า ในคำถามซึ่งถามว่าต้องการอยู่ในอียูต่อไป หรืออยากจะให้ถอนตัว ปรากฏว่า จำนวนของทั้งสองฝ่ายก้ำกึ่งคู่คี่ โดยที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 6 สัปดาห์ก็จะถึงวันลงประชามติแล้ว

ในการให้สัมภาษณ์ซันเดย์ เทเลกราฟ คราวนี้ จอห์นสัน บอกว่า เขาต้องการให้ประชาชนชาวอังกฤษแสดงตนเป็น “วีรชนของยุโรป” กันอีกครั้ง ซึ่งดูจะเป็นความพยายามที่จะใช้ถ้อยคำภาษาอย่างเดียวกับที่ วินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เคยใช้ หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ระบุ

ซันเดย์ เทเลกราฟ ยังอ้างคำพูดของจอห์นสันที่กล่าวว่า ความตึงเครียดซึ่งเกิดขึ้นระหว่างพวกรัฐสมาชิกอียูด้วยกัน ได้เปิดทางให้เยอรมนีสามารถขยายอำนาจภายในสหภาพยุโรป และสามารถ “เทกโอเวอร์” เศรษฐกิจของอิตาลี ตลอดจนสามารถ “ทำลาย” กรีซ

กำลังโหลดความคิดเห็น