เอเอฟพี - ธนาคารกลางสิงคโปร์สั่งปิดธนาคารบีเอสไอ สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ วันนี้ (24 พ.ค.) ฐานมีส่วนพัวพันการทุจริตฟอกเงินที่เชื่อมโยงไปถึงกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) ที่นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซียก่อตั้งขึ้น
ทางการสวิตเซอร์แลนด์เปิดเผยเช่นกันว่า ได้มีการดำเนินคดีทางอาญากับบริษัท บีเอสไอ เอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนาคารบีเอสไอในสิงคโปร์ เนื่องจากพบ “ความบกพร่อง” ภายในองค์กร
“ธนาคารบีเอสไอเป็นตัวอย่างของการกำกับดูแลที่ล้มเหลว และการประพฤติผิดอย่างร้ายแรงที่เราได้เห็นในแวดวงการเงินของสิงคโปร์” ราวี เมนอน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของธนาคารกลางสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore - MAS) ระบุในคำแถลง
MAS ยังร้องขอให้อัยการแห่งรัฐสอบสวนผู้บริหารอาวุโส 6 คนของธนาคารบีเอสไอ รวมถึง ฮานส์ ปีเตอร์ บรุนเนอร์ อดีตซีอีโอ ว่ามีพฤติกรรมที่เข้าข่ายทุจริตหรือไม่ และยังสั่งปรับเงินจากธนาคารอีก 13.3 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โทษฐานละเมิดกฎหมายว่าด้วยการฟอกเงินรวม 41 กระทง เช่น ไม่ตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง (customer due diligence) และไม่ติดตามการทำธุรกรรมของลูกค้าที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยอยู่เป็นประจำ เป็นต้น
ผู้บริหารชาวสิงคโปร์ 2 คนของธนาคารบีเอสไอได้ถูกดำเนินคดีไปแล้วก่อนหน้านี้
สิงคโปร์ถือเป็นศูนย์กลางการเงินของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีธนาคารเข้าไปเปิดสาขามากกว่า 200 แห่ง
บีเอสไอเป็นวาณิชธนกิจที่เปิดให้บริการในสิงคโปร์เมื่อเดือน พ.ย. ปี 2005 และให้บริการด้านธุรกรรมการเงินส่วนบุคคล (private banking) แก่บรรดามหาเศรษฐี
คำสั่งปิดธนาคารบีเอสไอถือเป็นการปิดวาณิชธนกิจในสิงคโปร์ครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี โดยก่อนหน้านี้ บริษัท จาร์ดีน เฟลมมิง (สิงคโปร์) ได้ถูกสั่งปิดเมื่อปี 1984 เนื่องจากให้คำปรึกษาทางการเงิน “ผิดพลาดอย่างร้ายแรง”
นายกฯ นาจิบ ซึ่งก่อตั้งกองทุน 1MDB ขึ้นในปี 2009 ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์ออกไปจากกองทุนแห่งนี้ โดยผ่านเครือข่ายฟอกเงินที่โยงใยไปถึงกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางและหมู่เกาะเคย์แมน