xs
xsm
sm
md
lg

ระบุ ‘เศรษฐกิจจีน’จะเติบโตแบบตัว L ในช่วงหลายปีจากนี้ไป

เผยแพร่:   โดย: เอเชียอันเฮดจ์

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Talk of ‘L-shaped’ recovery clobbered Chinese stocks
By Asia Unhedged
10/05/2016

เหรินหมินรึเป้า หนังสือพิมพ์ทางการของพรรคอคมมิวนิสต์จีน เผยแพร่รายงานการให้สัมภาษณ์พิเศษของ “คนวงในที่มีความน่าเชื่อถือ” ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าหมายถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้หนึ่ง ระบุว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในระยะหลายปีต่อจากนี้ไป จะอยู่ในรูปตัว L ไม่ใช่ตัว U หรือตัว V

ขอนำมาพูดเอาไว้ตรงนี้ เผื่อว่าคุณๆ จะตกหล่นยังไม่ได้ทราบกัน นั่นคือ รัฐบาลจีนแทบจะออกมายอมรับกันโต้งๆ ทีเดียวเมื่อวันจันทร์ (9 พ.ค.) ที่ผ่านมาว่า มองไม่เห็นว่าเศรษฐกิจแดนมังกรจะสามารถกระเตื้องดีดกลับอย่างแรงอะไรในเร็ววันนี้ หากแต่คาดหมายว่าจะได้เห็นแนวโน้มอัตราเติบโตอยู่ในลักษณะคงเดิมลากยาวไม่ค่อยขึ้นไม่ค่อยลงหวือหวาฮือฮาในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีต่อจากนี้

ทั้งนี้ เหรินหมินรึเป้า (หรือ People’s Daily) หนังสือพิมพ์ทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เป็นผู้ปกครองแดนมังกรอยู่ในเวลานี้ ในฉบับวันจันทร์ (9 พ.ค.) ได้เสนอรายงานข่าวการให้สัมภาษณ์พิเศษของ “คนวงในที่มีความน่าเชื่อถือ” (authoritative insider) ผู้หนึ่ง โดยในการให้สัมภาษณ์นี้ บุคคลผู้นั้นระบุว่า แนวโน้มอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในช่วงหลายปีต่อจากนี้ไป จะอยู่ในรูป “ตัว L” ไม่ใช่ “ตัว U” หรือ “ตัว V” (ดูรายละเอียดได้ที่ http://en.people.cn/n3/2016/0509/c98649-9055137.html)

เนื่องจากวลี “คนวงในที่มีความน่าเชื่อถือ” ที่ปรากฏอยู่ใน เหรินหมินรึเป้า ทำให้สันนิษฐานกันว่าหมายถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้หนึ่ง ดังนั้นรายงานข่าวนี้จึงได้รับความสนใจกันอย่างกว้างขวาง ขณะเดียวกันก็มีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การอ้างอิงแหล่งข่าวผู้ให้ข่าวในลักษณะไม่ชัดเจนเช่นนี้ ดูจะเนื่องจากไม่ต้องการให้ข่าวนี้หล่นหายไปจากจอเรดาร์ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ปรารถนาให้มันเป็นการแถลงอย่างเป็นทางการ

ก่อนหน้านั้นเมื่อวันอาทิตย์ (8 พ.ค.) ทางการจีนเพิ่งเผยแพร่ตัวเลขข้อมูลทางการค้าของแดนมังกรประจำเดือนเมษายน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทั้งการส่งออกและการนำเข้าต่างกำลังลดลงมามากกว่าที่คาดหมายกัน ดังนั้นเมื่อมีรายงานการให้สัมภาษณ์นี้เพิ่มเข้ามาอีก จึงทำให้ตลาดหุ้นจีนพากันหล่นตุ๊บลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนในวันจันทร์ (9 พ.ค.)

ทั้งนี้ดัชนี CSI 300 ซึ่งเป็นมาตรวัดความเคลื่อนไหวของหุ้นชั้นดีระดับบลูชิป 300 ตัวในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นของจีน ได้ถอยลงมา 2.1% มายืนที่ 3,065.62 ขณะที่ดัชนีหุ้นรวมของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Stock Exchange Composite Index) ลบ 2.8% อยู่ที่ 2,832.11

เมื่อมองภาพรวมของทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน กล่าวคือ ดัชนี CSI 300 ปิดวันศุกร์ (13 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 3,074.94 เท่ากับว่าตลอดทั้งสัปดาห์ได้ลดลงมา 1.8% ส่วนดัชนีหุ้นรวมของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ยืนอยู่ที่ 2,827.11 หมายความว่าทั้งสัปดาห์หล่นลงราว 3%

ถึงแม้ในไตรมาสแรกของปี 2016 นี้ ข้อมูลตัวเลขภาวะเศรษฐกิจจีนทั้งด้านอัตราการเติบโต, อัตราการใช้ประโยชน์สูงสุดจากโครงสร้าง, ตลอดจนมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ต่างทำท่าดำเนินไปได้ด้วยดี ทว่าขณะเดียวกันก็ยังมีความยากลำบากจำนวนไม่น้อยรออยู่ข้างหน้า เป็นต้นว่า ภาวะกำลังการผลิตล้นเกิน, ปัญหาหนี้เสีย, ภาระหนี้สินอันหนักอึ้งของรัฐบาลส่วนท้องถิ่น, ภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์, ตลอดจนปัญหาการปล่อยเงินกู้อย่างผิดกฎหมาย

นอกจากความหวังที่หดหายจางคลายไปเรื่อยๆ ในเรื่องที่ว่าเศรษฐกิจจีนจะกลับพลิกฟื้นขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งได้ในเร็ววันแล้ว เวลานี้พวกนักลงทุนยังหวั่นกลัวว่าจะมีการใช้มาตรการทางกฎระเบียบกันหนักขึ้นกว่าเดิมเพื่อปราบปรามการเก็งกำไร

ตามคำอธิบายของ “คนวงใน” ต่อเหรินหมินรึเป้า ระยะเวลาที่จีนจะมีการฟื้นตัว “แบบรูปตัว L” นี้ คาดการณ์กันว่าจะยาวนานกว่า 2 ปี เนื่องจากดีมานด์ความต้องการที่อ่อนแอ และภาวะกำลังการผลิตล้นเกิน กระนั้น แหล่งข่าวรายนี้ก็ยืนยันว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนจะไม่เกิดการลดฮวบฮาบ โดยสิ่งที่ทำให้แน่ใจเช่นนั้น ได้แก่ศักยภาพ, ความยืดหยุ่น, และช่องทางที่ยังสามารถเคลื่อนไหวดำเนินการต่างๆ ได้ของเศรษฐกิจแดนมังกร

“เราไม่ควรตื่นเต้นมากจนเกินเหตุเมื่อได้เห็นดัชนีบางตัวกำลังดีดกลับกระเตื้องขึ้นมา เช่นเดียวกันเราก็ไม่ควรตระหนกตกใจจนเกินการณ์เมื่อได้เห็นดัชนีบางตัวกำลังตกลงไป” เหรินหมินรึเป้าอ้างคำพูดของบุคคลผู้นี้

แหล่งข่าวรายนี้ยังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับอีกมิติหนึ่งของเศรษฐกิจจีน เมื่อบอกว่าในขณะที่โดยภาพรวมแล้ว เศรษฐกิจแดนมังกรกำลังฟื้นตัวดีขึ้นมา ทว่าความไม่สมดุลระหว่างภูมิภาคต่างๆ ยังคงดำรงอยู่ ทั้งนี้พื้นที่ชายฝั่งกำลังได้เห็นการฟื้นตัวที่เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ทว่าพื้นที่ตอนในเข้าไปทั้งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคกลาง, และภาคตะวันตก กลับเผชิญกับภาวะสะดุดติดขัดแบบคอขวด

ตามรายงานของเหรินหมินรึเป้า แหล่งข่าวผู้นี้อธิบายว่าความไม่สมดุลเช่นนี้เป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ในเวลาเดินไปตามเส้นทางแห่งการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยภาคส่วนที่ให้ผลตอบแทนสูงมักสามารถดึงดูดทรัพยากรได้มากกว่าภาคส่วนที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่า ทว่าเวลาเดียวกันนั้นสภาพเช่นนี้ก็จะก่อให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้นและภาวะกำลังการผลิตล้นเกินขึ้นมา เมื่อสภาพดังกล่าวเกิดขึ้น ภาคส่วนบางภาคจะพยายามใช้ประโยชน์จากทรัพยากรซึ่งมีอยู่เพื่อสร้างนวัตกรรม แต่ภาคส่วนอื่นๆ กลับเอาแต่รอคอยวันเวลาที่จะโชคดีขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง ความไม่สมดุลจึงจะยังคงปรากฏขึ้นมา

ในตอนท้าย คนวงในที่มีความน่าเชื่อถือผู้นี้กล่าวย้ำว่า ความไม่สมดุลไม่ใช่เป็นเรื่องเลวร้าย แล้วก็เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่ระหว่างพื้นที่ภาคส่วนต่างๆ ของประเทศเท่านั้น แต่ยังมีความไม่สมดุลในระหว่างอุตสาหกรรมต่างๆ และในระหว่างวิสาหกิจต่างๆ เช่นกัน ทั้งนี้ พวกซึ่งพยายามทำให้ตนเองโดดเด่นขึ้นมา จะประสบความมั่งคั่งรุ่งเรือง ขณะที่พวกซึ่งถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลังนั้นก็สามารถและสมควรที่จะเก็บรับบทเรียนจากความล้มเหลวของพวกเขา

ในรายงานข่าวนี้ เหรินหมินรึเป้าได้เน้นให้เห็นความสำคัญของปี 2016 โดยกล่าวว่าเป็นปีแห่งการเริ่มต้นของแผน 5 ปีฉบับที่ 13 ของจีน ซึ่งจะแสดงบทบาทตัดสินอย่างสำคัญในเส้นทางการสร้างประเทศจีนให้เข้าสู่สถานะสังคมที่มีความเจริญรุ่งเรืองระดับพอประมาณ (moderately prosperous society ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Moderately_prosperous_society -ผู้แปล) นอกจากนั้น สังคมจีนเวลานี้ยังกำลังจะบรรลุความสำเร็จขั้นสุดท้ายของการปฏิรูปเชิงโครงสร้างแบบเน้นด้านซัปพลาย (supply-side structural reform ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://china.org.cn/business/2015-12/22/content_37375156.htm ) อีกด้วย
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged)


กำลังโหลดความคิดเห็น