เอเจนซีส์/รอยเตอร์ – บริษัทแท็กซี่ Uber (อูเบอร์) สัญชาติสหรัฐฯอาจต้องตกที่นั่งลำบาก หากบริษัทต้องแพ้คดีในการตัดสินว่า สมาชิกนักขับ Uber ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐแมสซาชูเซตส์นั้นถือเป็นพนักงานบริษัท และอาจทำให้ทาง Uber ต้องจ่ายค่าเสียหายสูงถึง 852 ล้านดอลลาร์ ที่รวมไปถึง ค่าซ่อมแซมรถ ค่าน้ำมัน และอื่นๆ ที่สิ่งเหล่านี้นักขับ Uber ต้องรับผิดชอบเองมาตลอด 7 ปี
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(10 พ.ค)ถึงความคืบหน้าคดีระหว่างบริษัทแท็กซี่ Uber (อูเบอร์) ที่มีฐานอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ และคู่กรณีกลุ่มสมาชิกนักขับ Uber ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐแมสซาชูเซตส์ ว่าการประนีประนอมทางคดีความก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายนล่าสุด ที่ทางบริษัทเสนอยอมจ่ายมากสุดถึง 100 ล้านดอลลาร์เป็นค่าเสียหายอาจจะยังไม่สิ้นสุด เมื่อยังมีนักขับบางส่วนในทั้ง 2 รัฐยังเห็นว่า ค่าเสียหายที่พวกเขาได้รับนั้นน้อยเกินไป และเชื่อว่าทางบริษัท Uber สมควรต้องจ่ายอีก 62.5 พันล้านดอลลาร์ รายงานจากเอกสารของศาลสหรัฐฯที่ถูกเปิดเผยเมื่อวานนี้(9 พ.ค)
โดยสื่ออังกฤษชี้ว่า ในข้อเสนอประนีประนอม ทางบรรดานักขับชาวสหรัฐฯจะได้รับราว 84 ล้านดอลลาร์ แต่อาจเพิ่มได้สูงสุดถึง 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต้องสอดคล้องกับการประเมินของทาง Uber ซึ่งทำให้เกิดคำถามในการไต่สวนของคณะลูขุนสหรัฐฯในการประเมินสถานะของบรรดานักขับ Uber เหล่านี้ว่า มีสถานะเป็นผู้อยู่ในคู่สัญญา(contract) หรืออยู่ในสถานะเป็นพนักงานและลูกจ้างของ Uber (employee)
มีรายงานว่า นักขับสมาชิก Uber จำนวนหลายสิบคนได้ส่งหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการคัดค้านการประนีประนอมคดีของทางบริษัท Uber โดยต่างแสดงความไม่เห็นด้วยต่อจำนวนเงินที่ถูกเสนอ และรวมไปถึงการระบุของทาง Uber ที่ยังคงต้องการกำหนดให้บรรดานักขับเหล่านี้เป็น “คู่สัญญาอิสระของทางบริษัท” ต่อไป
เดอะการ์เดียน รายงานเพิ่มเติมต่อว่า การประเมินค่าเสียหายของ Uber นั้นขึ้นอยู่กับว่าทางคณะลูกขุนสหรัฐฯเลือกที่จะสั่งให้ทางบริษัทชดใช้สมาชิกนักขับ Uber เหล่านี้จากอัตราตายตัวของภาษีสหรัฐฯ (IRS’s fixed rate) หรือไม่ ที่คิดจาก50 - 56.6เซนต์/ไมล์ หรืออัตราแบบแปรผัน จาก 16.5 - 24 เซนต์ / ไมล์
และหากถูกคิดในอัตราแรก สื่ออังกฤษชี้ว่า ค่าความเสียหายต่อระยะไมล์ทั้งหมดที่ทางนักขับ Uberในรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐแมสซาชูเซตส์ที่พึงได้รับอาจสูงถึง 700 ล้านดอลลาร์ที่เดียว แต่ถ้าหากเลือกใช้อัตราแบบที่ 2 ทางบริษัทแท็กซี่ Uber ต้องจ่าย 277 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ในการยื่นฟ้อง มีการคาดการณ์ว่า บรรดานักขับอาจชนะสามารถเรียกร้องค่าชดเชยมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ได้ในส่วนของค่าใช้จ่ายโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อทางธุรกิจ และอีก 122 ล้านดอลลาร์ สำหรับค่าเสียหายในส่วนของทิปค่าบริการ
ทั้งนี้รอยเตอร์รายงานว่า ที่ผ่านมาเป็นเวลา 7 ปี นักขับสหรัฐฯที่อยู่ภายใต้ Uber ต้องควักกระเป๋าในการซ่อมแซมบำรุงรักษารถ ค่าน้ำมัน เองทั้งหมด
ซึ่งทนายความตัวแทนของนักขับ Uberยืนยันว่า ความเสียหายที่ประเมินได้ทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึง การได้ทิป นั้นตกอยู่ราว 852 ล้านดอลลาร์ รอยเตอร์ชี้ แต่อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท Uber ออกมาอ้างว่า จากการคำนวณของทางบริษัท ตัวเลขความเสียหายมีเพียง 429 ล้านดอลลาร์เท่านั้น