เอเจนซีส์ - ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุในวันเลือกตั้งใหญ่ของฟิลิปปินส์ในวันจันทร์ (9 พ.ค.) ชาวตากาล็อกต่างพากันออกมาลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ของพวกเขา โดยมีตัวเต็ง “โรดริโก ดูเตอร์เต” นายกเทศมนตรีเมืองดาเวา ถูกคาดหมายว่าจะได้รับชัยชนะจากการสำรวจความเห็นของโพล
บรรยากาศการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งคุกรุ่นไปด้วยความชิงชังต่อเหล่าผู้นำในรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ แม้เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัวเข้มแข็งตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ดูเตอร์เต นายกเทศมนตรีเมืองดาเวา 7 สมัย ตั้งแต่ปี 1988 ผงาดขึ้นเป็นผู้สมัครเต็งหนึ่งด้วยบุคลิกแบบดิบเถื่อนถึงลูกถึงคน จนถูกเรียกขานว่า “ดูเตอร์เต แฮร์รี” ซึ่งมาจากตัวละคร “เดอร์ตี แฮร์รี” ของภาพยนตร์ชื่อเดียวกันเมื่อปี 1971 นำแสดงโดย คลินต์ อีสวูด เนื้อเรื่องเกี่ยวกับตำรวจขาโหดที่ไล่เข่นฆ่าเหล่าร้าย
ดูเตอร์เตยังมีอีกฉายาว่า “จอมลงทัณฑ์” (the Punisher) คะแนนนิยมของนายกเทศมนตรีผู้นี้พุ่งพรวดจากการประกาศจะสังหารอาชญากรนับหมื่นเพื่อยุติอาชญากรรมให้ได้ภายใน 6 เดือนหากได้ตำแหน่งประธานาธิบดี ทั้งยังขู่สถาปนาระบอบเผด็จการ หากถูกรัฐสภาตีรวน รวมถึงให้สัญญาอ้าแขนรับกบฏคอมมิวนิสต์
กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับดูเตอร์เต ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดี เบนีโญ อากีโน เตือนว่าดูเตอร์เตจะพาฟิลิปปินส์ถอยหลังสู่ยุคมืดของเผด็จการ
พฤติกรรมสุดห่ามของเขายังมีอีกมากมาย บรรดากลุ่มสิทธิมนุษยชนพากันประณามเขาว่าเป็นพวกที่สังหารอาชญากรด้วยขบวนการนอกศาล เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ราชายาเสพติดได้รับการปล่อยตัวที่มะนิลา ดูเตอร์เตตอบสนองต่อเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วยการบอกว่า "ที่ดาเวา แกไม่มีทางลอยนวลออกไปแบบเป็นๆ แกจะออกไปได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในโลงเท่านั้น คนชอบเรียกว่าเป็นการสังหารด้วยขบวนการนอกศาลใช่ไหม งั้นผมจะเอาตัวมันไปอยู่ต่อหน้าผู้พิพากษา แล้วฆ่ามันตรงนั้นเลย แค่นี้ก็ไม่ใช่นอกศาลแล้ว"
ดูเตอร์เตถูกกล่าวหาว่ามีส่วนรู้เห็นกับการมีหน่วยล่าสังหารในเมืองดาเวาภายใต้ชื่อ "ดาเวา เดธ สควอด" ที่คอยทำตัวเป็นศาลเตี้ยไล่เข่นฆ่าอาชญากรภายในเมืองโดยไม่พึ่งกระบวนการยุติธรรม ส่วนตำรวจก็รู้เห็นแต่ทำเฉย แถมดูเตอร์เตยังเคยพูดไว้ด้วยว่าการสังหารอาชญากรคือวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับปราบการลักพาตัวและค้ายาเสพติดผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ ตลอดช่วง 20 ปีที่เขาดูแลเมืองดาเวา เขาทำให้เมืองที่เคยเป็น "เมืองหลวงของอาชญากรฟิลิปปินส์" กลายเป็นเมืองที่บรรดาองค์กรด้านการท่องเที่ยวเรียกว่า "เมืองสงบสุขที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" โดยทางเว็บไซต์ numbeo.com ยกให้ดาเวาอยู่ในลำดับที่ 4 ของเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม ในปี 2015 ดูเตอร์เตถูกประณามอย่างหนัก ตอนนั้นพระสันตะปาปาฟรานซิสมาเยือนฟิลิปปินส์ ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ดูเตอร์เตใช้ปากที่ไม่มีหูรูดของเขาด่าออกมาว่า "โป๊ป แกมันลูกกะหรี่ กลับบ้านไป แล้วไม่ต้องมาเยี่ยมเราอีก" ผลที่ตามมาก็คือคำประณามจากทั่วสารทิศ จนดูเตอร์เตต้องออกมาขอโทษพร้อมกับอ้างว่าเขาไม่ได้ด่าโป๊ป แต่ด่ารัฐบาลที่ทำงานไม่ได้เรื่องจนการจราจรติดขัด
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาดูเตอร์เตก็เพิ่งจะโดนด่าเพราะปากปีจอของเขา หลังจากที่หยอดมุขตลกแบบไม่เข้าหูคนขณะหาเสียง เกี่ยวกับเรื่องที่ผู้เผยแผ่ศาสนาชาวออสเตรเลียถูกข่มขืนแล้วฆ่าในคุกฟิลิปปินส์เมื่อปี 1989
"พวกมันข่มขืนผู้หญิงทุกคน มีชาวออสเตรเลียด้วย ตอนที่เธอถูกพาออกมา ผมมองหน้าเธอแล้วก็คิดว่า ไอ้พวกลูกกะหรี่เอ๊ย เธอช่างน่าสงสารจริงๆ พวกมันข่มขืนเธอ เรียงคิวเธอ ผมโกรธมากที่เธอถูกข่มขืน แต่เธอช่างสวยเหลือเกิน ผมว่านายกเทศมนตรีควรได้เป็นคิวแรก" ดูเตอร์เตเรียกเสียงฮาจากผู้สนับสนุน แต่โดนด่าเละเทะจากหลายฝ่ายในเวลาต่อมา
แจคเกอลีน เฮมิล เป็นผู้เผยแผ่ศาสนาทำงานอยู่ในเรือนจำที่ดาเวา ตอนที่เธอถูกข่มขืนแล้วฆ่าในปี 1989 เป็นช่วงที่เกิดการจลาจลโดยนักโทษภายในเรือนจำ ตอนนั้นดูเตอร์เตกำลังเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองดาเวา