เอเจนซีส์ - คณะกรรมาธิการยุโรปเล็งใช้มาตรการ “Dublin asylum regulation” หรือ มาตรการลี้ภัยดับลิน ตามการเห็นชอบในที่ประชุมวันจันทร์ (2 พ.ค) อนุญาตประเทศยุโรปเหนือสามารถขับผู้อพยพกลับไปยังประเทศแรกสุดที่รับตัวได้ และยังกำหนดบทลงโทษชาติสมาชิกอียูทั้ง 28 ชาติ ปรับเงิน 250,000 ยูโรต่อผู้ลี้ภัย 1 คนหากรัฐบาลประเทศนั้นไม่ยอมผู้อพยพเข้ามาลี้ภัยตามข้อตกลง
RT รายงานวันนี้ (4 พ.ค) ว่า แหล่งข่าวจากบรัสเซลส์เปิดเผยกับสื่อไฟแนนเชียลไทม์ส ว่า ในส่วนของการกำหนดค่าปรับชาติสมาชิกอียู ที่ในเบื้องต้นมีการกำหนดให้สั่งปรับ 250,000 ยูโรต่อผู้ลี้ภัย 1 คนนั้น สามารถเจรจาหาข้อยุติได้ในภายหลัง “อย่างไรก็ตาม ในส่วนเรื่องของค่าปรับนั้น ยังไม่เป็นที่ยุติ และยังสามารถอยู่ในการเจรจา ซึ่งจำนวนเงินที่จะเกิดขึ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่ยังคงต้องการให้เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการทำให้เหมือนการลงโทษ”
ซึ่งในการประชุมของคณะกรรมาธิการยุโรปในวันจันทร์ (2 พ.ค) ที่มีรายงานว่า ได้ยอมรับตามข้อเสนอแนวทางมาตรการ “Dublin asylum regulation” หรือมาตรการลี้ภัยดับลิน ที่นอกจากกำหนดค่าปรับสำหรับรัฐบาลชาติสมาชิกยุโรปที่ปฏิเสธการรับตัวผู้ลี้ภัยที่ถูกส่งเข้าไปแล้ว ยังได้อนุญาตประเทศยุโรปเหนือสามารถขับผู้อพยพกลับไปยังประเทศแรกสุดที่รับตัวได้
โดยเป้าหมายของคณะกรรมาธิการยุโรปนั้น เพื่อเฉลี่ยวิกฤตผู้อพยพจากประเทศที่ต้องแบกรับภาระหนัก เช่น กรีซ ไปให้ชาติอื่น ๆ ตามโควตาที่กำหนด แต่อย่างไรก็ตาม สื่อรัสเซีย ชี้ว่า แนวทางโควตาการส่งตัวผู้ลี้ภัย 160,000 คน กระจายไปยังชาติต่าง ๆ นั้นยังไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่ 1% ซึ่งมีหลายชาติที่ต่อต้านข้อเสนอจากคณะกรรมาธิการยุโรปนี้อย่างหนัก รวมไปถึง โปแลนด์ สโลวาเกีย โรมาเนีย และ ฮังการี
ภายใต้มาตรการใหม่ที่จะออกมา ประเทศสมาชิก เช่น โปแลนด์ ที่มีโควตารับผู้อพยพจำนวน 6,500 คนนั้น อาจจะต้องจ่ายค่าปรับถึง 1 พันล้านยูโร หากทางรัฐบาลโปแลนด์จะยังคงยืนกรานไม่ยอมรับผู้ลี้ภัยเข้าประเทศ ไฟแนนเชียลไทม์ส ชี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีข่าวมาตรการค่าปรับออกมา ทำให้รัฐมนตรีมหาดไทยสโลวาเกีย โรเบิร์ต คาลินาค (Robert Kaliňák) ได้กล่าวประณามว่า “โควตาไม่สะท้อนความเป็นจริง”
และในส่วนของฮังการี นายกรัฐมนตรี วิกเตอร์ ออร์แบน (Victor Orban) ได้กล่าวตอบโต้อย่างเผ็ดร้อน จากการรายงานของสื่ออังกฤษ เอ็กซเพรส ว่า อียูไม่มีอำนาจที่จะสั่งปรับรัฐบาลชาติสมาชิกได้ เพราะอียูไม่ใช่สหภาพโซเวียต โดยออร์แบนยืนยันว่า “ไม่มีใครสามารถบังคับให้ทำในสิ่งที่ประชาชนชาวฮังการีไม่ต้องการ”
และนอกจากนี้ ผู้นำฮังการียังเตือนว่า โควตากระจายผู้อพยพนั้นยังเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการก่อการร้าย โดย ออร์แบน กล่าวว่า “มีความเชื่อมโยงระหว่างผู้ลี้ภัยและการก่อการร้าย ซึ่งคนพวกนี้ต้องการแก้แค้นชาติต่าง ๆ ในยุโรป”
RT รายงานวันนี้ (4 พ.ค) ว่า แหล่งข่าวจากบรัสเซลส์เปิดเผยกับสื่อไฟแนนเชียลไทม์ส ว่า ในส่วนของการกำหนดค่าปรับชาติสมาชิกอียู ที่ในเบื้องต้นมีการกำหนดให้สั่งปรับ 250,000 ยูโรต่อผู้ลี้ภัย 1 คนนั้น สามารถเจรจาหาข้อยุติได้ในภายหลัง “อย่างไรก็ตาม ในส่วนเรื่องของค่าปรับนั้น ยังไม่เป็นที่ยุติ และยังสามารถอยู่ในการเจรจา ซึ่งจำนวนเงินที่จะเกิดขึ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่ยังคงต้องการให้เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการทำให้เหมือนการลงโทษ”
ซึ่งในการประชุมของคณะกรรมาธิการยุโรปในวันจันทร์ (2 พ.ค) ที่มีรายงานว่า ได้ยอมรับตามข้อเสนอแนวทางมาตรการ “Dublin asylum regulation” หรือมาตรการลี้ภัยดับลิน ที่นอกจากกำหนดค่าปรับสำหรับรัฐบาลชาติสมาชิกยุโรปที่ปฏิเสธการรับตัวผู้ลี้ภัยที่ถูกส่งเข้าไปแล้ว ยังได้อนุญาตประเทศยุโรปเหนือสามารถขับผู้อพยพกลับไปยังประเทศแรกสุดที่รับตัวได้
โดยเป้าหมายของคณะกรรมาธิการยุโรปนั้น เพื่อเฉลี่ยวิกฤตผู้อพยพจากประเทศที่ต้องแบกรับภาระหนัก เช่น กรีซ ไปให้ชาติอื่น ๆ ตามโควตาที่กำหนด แต่อย่างไรก็ตาม สื่อรัสเซีย ชี้ว่า แนวทางโควตาการส่งตัวผู้ลี้ภัย 160,000 คน กระจายไปยังชาติต่าง ๆ นั้นยังไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่ 1% ซึ่งมีหลายชาติที่ต่อต้านข้อเสนอจากคณะกรรมาธิการยุโรปนี้อย่างหนัก รวมไปถึง โปแลนด์ สโลวาเกีย โรมาเนีย และ ฮังการี
ภายใต้มาตรการใหม่ที่จะออกมา ประเทศสมาชิก เช่น โปแลนด์ ที่มีโควตารับผู้อพยพจำนวน 6,500 คนนั้น อาจจะต้องจ่ายค่าปรับถึง 1 พันล้านยูโร หากทางรัฐบาลโปแลนด์จะยังคงยืนกรานไม่ยอมรับผู้ลี้ภัยเข้าประเทศ ไฟแนนเชียลไทม์ส ชี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีข่าวมาตรการค่าปรับออกมา ทำให้รัฐมนตรีมหาดไทยสโลวาเกีย โรเบิร์ต คาลินาค (Robert Kaliňák) ได้กล่าวประณามว่า “โควตาไม่สะท้อนความเป็นจริง”
และในส่วนของฮังการี นายกรัฐมนตรี วิกเตอร์ ออร์แบน (Victor Orban) ได้กล่าวตอบโต้อย่างเผ็ดร้อน จากการรายงานของสื่ออังกฤษ เอ็กซเพรส ว่า อียูไม่มีอำนาจที่จะสั่งปรับรัฐบาลชาติสมาชิกได้ เพราะอียูไม่ใช่สหภาพโซเวียต โดยออร์แบนยืนยันว่า “ไม่มีใครสามารถบังคับให้ทำในสิ่งที่ประชาชนชาวฮังการีไม่ต้องการ”
และนอกจากนี้ ผู้นำฮังการียังเตือนว่า โควตากระจายผู้อพยพนั้นยังเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการก่อการร้าย โดย ออร์แบน กล่าวว่า “มีความเชื่อมโยงระหว่างผู้ลี้ภัยและการก่อการร้าย ซึ่งคนพวกนี้ต้องการแก้แค้นชาติต่าง ๆ ในยุโรป”
