xs
xsm
sm
md
lg

เลือดนอง “อเลปโป” ซีเรียยังไร้วี่แววหยุดยิง รัฐมนตรี ตปท.มะกัน ขีดเส้นตายปลด “อัสซาด” 1 ส.ค.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online





เอเจนซีส์ - กลุ่มกบฏซีเรียโจมตีพื้นที่ทางด้านตะวันตกของเมืองอเลปโป และยิงจรวดเข้าใส่โรงพยาบาลทำให้พลเมืองถูกลูกหลงเสียชีวิต ขณะที่นักการทูตพยายามอย่างยิ่งยวดในการฟื้นข้อตกลงหยุดยิงและการเจรจาสันติภาพ ด้านวอชิงตันใช้ไม้แข็ง ขีดเส้นตายให้ดามัสกัสเริ่มกระบวนการผ่องถ่ายทางการเมืองโดยไม่มีบาร์ชาร์ อัล-อัสซาด ภายในวันที่ 1 สิงหาคม ไม่เช่นนั้นอาจต้องเผชิญผลของการกระทำ ซึ่งหลายฝ่ายวิจารณ์ว่า อาจเป็นเพียงคำขู่ลอย ๆ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ส กลุ่มติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในซีเรียที่มีฐานอยู่ในอังกฤษ และอาศัยแหล่งข่าวซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลในพื้นที่ ระบุเมื่อวันอังคาร (3 พ.ค.) ว่า มีผู้เสียชีวิต 19 คน จากจรวดที่กบฏยิงใส่พื้นที่ยึดครองของรัฐบาลในเมืองอเลปโป เมืองสำคัญทางภาคหนือของซีเรีย ผู้สิ้นชีพเหล่านี้รวมถึงผู้เสียชีวิตที่ไม่ระบุจำนวนในโรงพยาบาลอัล-ดาบิต

ด้านสถานีข่าว อิคห์บาริยาของทางการซีเรีย รายงานว่า ผู้หญิง 3 คนเสียชีวิตในโรงพยาบาล และ 17 คนได้รับบาดเจ็บ กระทรวงสารสนเทศซีเรียประณามการโจมตีโรงพยาบาลว่า เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
ชาวบ้านคนหนึ่งเดินผ่านซากหักพังของอาคารที่ได้รับความเสียหายจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในพื้นที่หนึ่งของเมืองอเลปโป ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏเมื่อวันอังคาร(3พ.ค.)
การโจมตีของกบฏเป็นการตอบโต้การโจมตีทางอากาศโดยกองทัพซีเรีย ซึ่งรวมถึงระลอกหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่มีการถล่มโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน ซึ่งกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนระบุว่า มีพลเรือนเสียชีวิต 55 คน

อเลปโปกลายเป็นสนามรบนองเลือดที่สุดที่มีการต่อสู้ยืดเยื้อกว่าสิบวัน และทำให้ข้อตกลงหยุดยิงครั้งสำคัญครั้งแรกในรอบ 5 ปีของสงครามกลางเมืองต้องมีอันพังครืนลง หลังจากอเมริกาและรัสเซียร่วมกันผลักดันจนลุล่วงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ในความพยายามฟื้นข้อตกลงหยุดยิง รัฐบาลซีเรียประกาศสงบศึกชั่วคราวในสองพื้นที่ที่ไม่รวมอเลปโป ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศก่อนที่จะเกิดสงคราม

สแตฟฟาน เดอ มิสตูรา ผู้แทนกิจการซีเรียของสหประชาชาติ ที่พบกับ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในนครเจนีวา, สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันจันทร์ (2) ก่อนบินสู่มอสโกเพื่อหารือกับเซียร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียในวันถัดมา แสดงความหวังว่า ข้อตกลงสงบศึกจะขยายไปยังอเลปโปโดยเร็ว ซึ่งจะปูทางสำหรับการฟื้นการเจรจาสันติภาพอีกทอด
หน่วยฉุกเฉินซีเรียเข้าดับเพลิงที่โรงพยาบาลอัล-ดับบีต หลังถูกกบฏยิงจรวดโจมตีพื้นที่ยึดครองของฝ่ายรัฐบาลในเมืองอเลปโปเมื่อวันอังคาร(3พ.ค.)
เช่นเดียวกับลาฟรอฟที่เผยว่า เสร็จสิ้นการหารือเรื่องดังกล่าวกับสหรัฐฯ แล้วและหวังว่า จะมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงในอเลปโปเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกัน เคร์รี เตือนว่า ถ้าซีเรียไม่เคารพข้อตกลงหยุดยิงและเดินหน้าการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองเพื่อปลดอัสซาดออกจากอำนาจและยุติสงครามกลางเมืองในซีเรียภายในวันที่ 1 สิงหาคม ซีเรียจะต้องรับผลของการกระทำนี้ ซึ่งอาจรวมถึงการที่ข้อตกลงหยุดยิงพังทลายลงโดยสิ้นเชิงและซีเรียกลับสู่ภาวะสงคราม ซึ่งเป็นสิ่งที่รัสเซียไม่น่าจะต้องการ

อย่างไรก็ดี ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ผลของการกระทำที่เคร์รีเตือนหมายถึงสิ่งใด นอกจากนั้น ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า คำขู่ก่อนหน้านี้ของคณะบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบามาต่ออัสซาด เป็นเพียงการแสดงท่าทีขึงขังเท่านั้น ไม่เคยมีการตอบโต้เชิงรุกเลยสักครั้ง และประมุขทำเนียบขาวมีจุดยืนหนักแน่นที่จะไม่ส่งทหารราบอเมริกันไปทำสงครามในซีเรียนอกเหนือจากกองกำลังพิเศษ 300 นายในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน

อย่างดีที่สุดคือ ซาอุดีอาระเบีย พันธมิตรสำคัญในตะวันออกกลางของอเมริกา จัดหาอาวุธใหม่ๆ ให้กบฏซีเรีย เช่น จรวดพกพาแบบยิงจากพื้นสู่อากาศเท่านั้น

วอชิงตันและมอสโกนั้นประกาศศูนย์ปฏิบัติการร่วมแห่งใหม่ในเจนีวา เพื่อติดตามสถานการณ์การหยุดยิงในซีเรีย โดยมีเจ้าหน้าที่ของทั้งสองชาติประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง
ชาวบ้านคนหนึ่งเดินผ่านซากหักพังของอาคารที่ได้รับความเสียหายจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในพื้นที่หนึ่งของเมืองอเลปโป ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏเมื่อวันอังคาร(3พ.ค.)
กลุ่มอ็อบเซอร์วาทอรี รายงานเมื่อวันอังคาร ว่า มีพลเรือนของทั้งฝ่ายกบฏและรัฐบาลเสียชีวิต 279 คนในอเลปโปนับจากวันที่ 22 เมษายนที่รัฐบาลโจมตีทางอากาศหนักหน่วง และกบฏตอบโต้ด้วยปืนใหญ่

การต่อสู้ตลอดวันอังคารและยืดเยื้อมาถึงวันพุธ (4) กระจุกอยู่ที่ภายในและรอบ ๆ เขตจามิอัต อัล-ซาฮรา ทางตะวันตกของอเลปโป โดยทางฝ่ายกบฏระบุว่า สามารถยึดพื้นที่ของรัฐบาลได้บางส่วน แต่กองทัพยืนยันว่า ขับไล่กลุ่มกบฏออกไปได้ในท้ายที่สุด

รามี อับดุลเราะห์มาน ผู้อำนวยการของอ็อบเซอร์วาทอรี เผยว่า การปะทะในบริเวณดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนและถือเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดในรอบปีที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น และว่า กองทัพซีเรียได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มฮิสบอลเลาะห์ในเลบานอน

ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในซีเรียทำให้ประชาชนเสียชีวิตนับแสน และผู้คนอีกหลายล้านต้องไร้บ้าน นำไปสู่วิกฤตผู้อพยพครั้งเลวร้ายที่สุดของโลก และทำให้กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ผงาดขึ้นมาเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่ร้ายกาจที่สุดและเปิดฉากโจมตีในดินแดนต่าง ๆ ทั่วโลก


กำลังโหลดความคิดเห็น