xs
xsm
sm
md
lg

ภัยแล้งฉุดผลผลิตข้าวในเอเชีย ส่อแววราคาขยับตัวเพิ่มมากขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ – คาดปีนี้ผลผลิตข้าวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี จากภาวะภัยแล้งอันเป็นผลพวงของปรากฏการณ์เอลนีโนที่ประเทศผู้ส่งออกข้าวสามรายใหญ่ของเอเชียกำลังเผชิญ เพิ่มความเสี่ยงที่ราคาอาหารหลักของคนครึ่งค่อนโลกจะกลับมาพุ่งทะยานอีกครั้ง

คลื่นความร้อนกำลังถาโถมอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก ขณะที่ผู้ผลิตอันดับ 2 อย่างไทยก็กำลังเผชิญภัยแล้งติดต่อกันเป็นปีที่สอง ส่วนผู้ผลิตข้าวอันดับ 3 อย่างเวียดนาม นาข้าวที่นั่นกำลังขาดน้ำอย่างหนักตามสภาพแม่น้ำโขงที่แห้งขอด ทั้งสามประเทศส่งออกข้าวรวมกันกว่า 60% ของปริมาณการค้าข้าวทั่วโลก 43 ล้านตัน

เจมส์ เฟลล์ นักเศรษฐศาสตร์ของสภาธัญพืชนานาชาติ (ไอจีซี) ชี้ว่า สาเหตุที่ราคาข้าวยังไม่แสดงปฏิกิริยารุนแรงใดๆ ต่อสภาพอากาศที่ร้อนแล้งในขณะนี้ เนื่องจากอินเดียและไทยยังมีสต็อกข้าวล้นตลาดจำนวนมาก

ทว่าปริมาณข้าวคงคลังของผู้ส่งออกชั้นนำทั้งสามถูกคาดหมายว่า จะลดลงราว 1 ใน 3 ภายในสิ้นปีนี้ ไปอยู่ที่ 19 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นการลดลงแบบปีต่อปีที่รุนแรงสุด นับตั้งแต่ปี 2003 จากการคำนวณของสำนักข่าวรอยเตอร์โดยอิงกับข้อมูลของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ

การหยุดชะงักของอุปทานครั้งใหญ่อาจส่งผลรุนแรง ดังเช่นที่เคยเกิดในปี 2008 ผลผลิตข้าวของเอเชียลดลงจากปรากฏการณ์เอลนีโน บีบให้อินเดียต้องห้ามส่งออก ราคาข้าวในตลาดโลกจึงพุ่งทะยานและเกิดปรากฏการณ์จลาจลจากอาหารในเฮติ กับมาตรการที่ตื่นตระหนกของผู้นำเข้ารายใหญ่อย่างฟิลิปปินส์ที่ต้องกวาดล้างการกักตุนข้าว สั่งกองทัพตรวจสอบการขายข้าวที่ได้รับการอุดหนุน รวมทั้งขอให้ธุรกิจฟาสต์ฟูดเสิร์ฟอาหารเพียงครึ่งส่วนจากเดิม ทั้งยังเรียกร้องให้เวียดนามและประเทศอื่นๆ ขายข้าวให้เพิ่ม

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โลกเผชิญวิกฤตอาหารหลายครั้งที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศเลวร้าย กรณีของไทยนั้น ราคาข้าวทำสถิติสูงสุดที่ตันละ 1,000 ดอลลาร์ในปี 2008 ขณะเดียวกัน ปรากฏการณ์ข้าวแพงส่งให้ธัญพืชอื่นๆ เช่น ข้าวสาลีที่ใช้กันกว้างขวางในการผลิตบะหมี่ในเอเชีย ถั่วเหลืองและข้าวโพดสำหรับเป็นอาหารคนและอาหารสัตว์ เป็นที่ต้องการมากขึ้น

แม้ราคาข้าวในขณะนี้ถูกกว่าเมื่อปี 2008 มาก แต่ต้นเดือนนี้ ราคาข้าวทำสถิติสูงสุดนับจากเดือนกรกฎาคมที่ตันละ 389.50 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 13% จากสถิติต่ำสุดในรอบ 8 ปีที่ทำไว้ในเดือนกันยายนที่ 344 ดอลลาร์

บรูซ โทเลนติโน จากสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศที่อยู่ในฟิลิปปินส์ แสดงความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเอเชีย โดยบอกว่า แม้ราคาข้าวโดยทั่วไปขณะนี้ยังทรงตัว แต่เริ่มขยับขึ้นและอาจเหวี่ยงตัวรุนแรงหากเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ในประเทศผู้ผลิตรายสำคัญ

ทั้งนี้ แม้ผลผลิตข้าวของอินเดียในปีที่ผ่านมาถือว่าทรงตัวเป็นส่วนใหญ่ แต่อากาศที่ร้อนจัดในปัจจุบันกำลังคุกคามการทำนารอบสองในภาคตะวันออก

ผู้ค้ามองว่า ราคาข้าวจะพุ่งขึ้นในเดือนมิถุนายน เนื่องจากไม่สามารถเก็บเกี่ยวพืชผลครั้งใหญ่ได้จนกว่าจะถึงเดือนกันยายน ขณะที่กำหนดเวลาเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ของไทยคือช่วงปลายปี

ด้านไอจีซีคาดว่า ปริมาณการเก็บเกี่ยวข้าวทั่วโลกปีนี้จะอยู่ที่ 473 ล้านตัน ลดลงจาก 479 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว และเป็นการลดลงรวดเร็วที่สุดในรอบ 6 ปี

ปริมาณการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ของไทยลดลงราวครึ่งหนึ่งของช่วงที่มีผลผลิตสูงสุดเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ยูเอสดีเอคาดว่า ผลผลิตของไทยในปีนี้จะลดลงกว่า 1 ใน 5 อยู่ที่ 15.8 ล้านตัน

ผู้ค้ารายหนึ่งในกรุงเทพฯ เผยว่า รัฐบาลขอให้ชาวนางดปลูกข้าว เนื่องจากเหลือน้ำในเขื่อนเพียงเล็กน้อย หลังจากภาวะฝนแล้งต่อเนื่องสองปี

ที่เวียดนาม ผลผลิตปีนี้ลดลง 1.5% อยู่ที่ 44.5 ล้านตัน ขณะที่การส่งออกถูกคาดหมายที่ 8.7 ล้านตันเท่ากับตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้า

รัฐบาลเวียดนามเผยว่า นาข้าว 1,464,000 ล้านไร่ในบริเวณตอนกลางและลุ่มแม่น้ำโขงทางใต้ของประเทศถูกภัยแล้งและน้ำเค็มทำลาย

ผู้ค้าในสิงคโปร์รายหนึ่งชี้ว่า แม้ปริมาณการเก็บเกี่ยวต่อปีของเวียดนามดูเหมือนลดลงเพียงเล็กน้อย แต่หากเปรียบเทียบกับปีที่แล้วจะพบว่า ปริมาณการเก็บเกี่ยวลดลงถึง 5-6% ทั้งนี้ ไทยและเวียดนามนั้นทำนาปีละ 3 ครั้ง

ขณะเดียวกัน ประเทศผู้นำเข้าบางแห่งเตรียมเพิ่มการนำเข้า เช่น อินโดนีเซียที่คาดว่า ปีนี้จะสั่งซื้อข้าวเพิ่มกว่า 60% จากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็น 2 ล้านตัน ขณะที่จีน ผู้นำเข้ารายใหญ่สุดของโลกที่นำเข้าข้าวปีละ 5 ล้านตัน ถูกคาดว่า จะมีผลผลิตไม่เพียงพอสำหรับการบริโภคเป็นปีที่สามติดต่อกัน ต้องสั่งซื้อข้าวในสัดส่วนเท่าเดิม

สำหรับฟิลิปปินส์นั้น มีปริมาณข้าวในสต็อกต่ำสุดนับจากเดือนตุลาคมปีที่แล้วถึงเดือนมีนาคมปีนี้ ทั้งที่นำเข้าข้าวแล้ว 750,000 ตัน และหน่วยงานจัดซื้อกำลังรอการอนุมัติจากรัฐบาลเพื่อสั่งซื้อเพิ่มอีก 500,000 ตัน

เอมมานูเอล เอสเกอร์รา รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนเศรษฐกิจแดนตากาล็อก เผยว่า แม้ปรากฏการณ์เอลนีโนเข้าสู่ช่วงสุดท้าย แต่ยังมีความเสี่ยงที่ราคาอาหารจะแพงขึ้นในช่วงต้นฤดูร้อน


กำลังโหลดความคิดเห็น