เอเอฟพี - โรงเรียนในมาเลเซียกว่า 250 โรงต้องปิดทำการในวันนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากคลื่นความร้อนที่นำเข้ามาโดยปรากฏการณ์ “เอล นีโญ” ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ทางภูมิอากาศดังกล่าวยังกำลังสร้างผลกระทบกระเทือนอย่างสาหัสต่อการผลิตอาหาร อีกทั้งก่อปัญหาน้ำขาดแคลนเรื้อรังขึ้นในประเทศแถบนี้จำนวนมาก
ทางการผู้รับผิดชอบได้สั่งปิดโรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ในรัฐปะลิส และรัฐปะหัง ภายหลังอุณหภูมิพุ่งขึ้นเหนือระดับ 37 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลามากกว่า 72 ชั่วโมง รายงานข่าวของสื่อท้องถิ่นระบุ
ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการของรัฐบาลกลางอธิบายว่า ที่ต้องตัดสินใจเช่นนี้ก็เพื่อสุขภาพของนักเรียนจำนวนราว 100,000 คน สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซียระบุ
มีรายงานว่า ระลอกความร้อนจัดจ้าในมาเลเซียยังทำให้การปลูกผักชะลอตัว จนราคาผักในตลาดวิ่งขึ้นไปอย่างแรง ในเวลาเดียวกัน ไร่นาและสวนยางก็ได้รับความกระทบกระเทือนจากอุณหภูมิซึ่งไต่สูงขึ้นไปอย่างสาหัส
เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2016 ต่างทำลายสถิติอุณหภูมิของโลกที่บันทึกกันเอาไว้ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกแถลงเช่นนี้เมื่อเดือนมีนาคม โดยอธิบายถึงสาเหตุของการที่อากาศร้อนขึ้นเป็นประวัติการณ์ว่า เนื่องจากเกิดความเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเพิ่มมากขึ้น “อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน”
หลายๆ ส่วนของเอเชียยังกำลังได้รับผลกระทบจากความแห้งแล้งที่ปรากฏการณ์เอลนีโญซึ่งมีกำลังแรงกล้านำเข้ามา เป็นต้นว่าประเทศไทยและฟิลิปปินส์ ซึ่งภัยแล้งกำลังคุกคามภาคการเกษตรอย่างหนัก
เอลนีโญมีชนวนเหตุจากการที่อุณหภูมิพื้นผิวทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกเพิ่มสูงขึ้น ปรากฏการณ์นี้เป็นตัวการทำให้ฝนตกหนักผิดปกติในบางพื้นที่ของโลก และก่อให้เกิดภัยแล้งในบริเวณอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาของมาเลเซียคาดหมายว่า คลื่นความร้อนที่แสดงอิทธิฤทธิ์อยู่ในปัจจุบันน่าจะบรรเทาผ่อนเพลาลงในเร็วๆ นี้
“ช่วงเลวร้ายที่สุดผ่านพ้นไปแล้ว เพราะฤดูลมมรสุมเริ่มขึ้นมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว และคาดว่าจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น” อธิบดี เช กายาห์ อิสมาอิล กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี