รอยเตอร์ - จีนและรัสเซียได้เรียกร้องในวันศุกร์ (29 เม.ย.) ให้อเมริกาล้มเลิกความคิดติดตั้งระบบต่อต้านมิสไซล์ในเกาหลีใต้ หลังจากที่วอชิงตันระบุกำลังหารือกับโสมขาวเรื่องระวังภัยอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
อเมริกาและเกาหลีใต้ได้เริ่มหารือกันถึงความเป็นไปได้ที่จะติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธเพดานบินสูง (THAAD) หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 6 มกราคม กับการทดสอบยิงขีปนาวุธอีกหลายครั้ง
การทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุะเหล่านั้นละเมิดมติของสหประชาชาติ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ยังแสดงความกังวลว่าโสมแดงจะทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 เพื่อแสดงแสนยานุภาพก่อนถึงวันประชุมพรรคแรงงาน ซึ่งจะเริ่มขึ้นวันที่ 6 พฤษภาคม
กองทัพสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง 2 ลูกเมื่อวันพฤหัสบดี แต่ประสบความล้มเหลวทั้งสองลูก
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย "เซอร์เก ลาฟรอฟ" กับผู้ดำรงตำแหน่งเดียวกันจากจีน "หวัง อี้" ได้ระบุในการแถลงข่าวร่วมกันว่า อเมริกาควรเคารพต่อความกังวลในเรื่องความถูกต้องตามกฏหมายของจีนและรัสเซีย เกี่ยวกับระบบต่อต้านขีปนาวุธดังกล่าว
"ความเคลื่อนไหวนี้อาจมากเกินความจำเป็นในการปกป้องบรรดาประเทศที่เกี่ยวข้อง หากมีการติดตั้งมันจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงของทั้งจีนและรัสเซีย" หวัง ระบุ
"ไม่เพียงแต่จะเป็นภัยต่อการแก้ปัญหาในคาบสมุทรเกาหลีเรื่องประเด็นนิวเคลียร์ มันยังอาจเป็นเหมือนการราดน้ำมันลงบนกองเพลิงให้กับสถานการณ์ที่ตึงเครียดอยู่แล้ว ทั้งยังอาจถึงขั้นทำลายสมดุลทางยุทธศาสตร์ในคาบสมุทรเกาหลี" รมต.จีน ระบุ
"การกระทำของเกาหลีเหนือไม่อาจใช้เป็นข้ออ้างสำหรับความเคลื่อนไหวที่ทำให้ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธของอเมริกา" ลาฟรอฟ กล่าวเสริม
การพัฒนาศักยภาพอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้สร้างความไม่พอใจให้จีน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนด้านเศรษฐกิจและการทูตเพียงรายเดียวของโสมแดง แต่ถึงกระนั้นรัฐบาลจีนก็ยังเกรงว่าระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD กับระบบเรดาร์ของมัน อาจมีระยะทำการกว้างเกินคาบสมุทรเกาหลีไปไกลถึงจีน
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ได้กล่าวไว้เมื่อวันพฤหัสบดีว่า ปักกิ่งจะไม่ยอมให้มีสงครามและความปั่นป่วนเกิดขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี
ในทางเทคนิค เกาหลีเหนือและใต้ยังคงอยู่ในภาวะสงคราม หลังจากที่สงครามเกาหลีช่วงปี 1950-1953 จบลงด้วยการพักรบ ซึ่งทางโสมแดงก็ยังคงข่มขู่อยู่เป็นประจำว่าจะทำลายเกาหลีใต้และชาติพันธมิตรหลักอย่างอเมริกา