รอยเตอร์/MGR Online - อิหร่านกำลังพูดคุยกับรัสเซียเกี่ยวกับการขายน้ำมวลหนักจากโครงการนิวเคลียร์ราว 40 ตันแก่มอสโก สำนักข่าวฟาร์สนิวส์รายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศเตหะรานในวันจันทร์ (25 เม.ย.) ไม่กี่วันหลังจากสหรัฐฯ ยืนยันเป็นลูกค้ารายแรก ท่ามกลางเสียงขุ่นเคืองภายในประเทศที่โวยวายว่ามันเลยเถิดไปไกลเกินกว่าปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตร
ภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งประวัติศาสตร์เมื่อปีที่แล้ว ระหว่างอิหร่านและชาติมหาอำนาจ เตหะรานมีหน้าที่รับผิดชอบในการลดสต๊อกน้ำมวลหนักซึ่งเป็นส่วนประกอบของการสร้างอาวุธนิวเคลียร์และผลิตพลังงานนิวเคลียร์
มันไม่ใช่สารกัมมันตรังสีและข้อตกลงนิวเคลียร์ก็ให้สิทธิ์อิหร่านในการขาย เจือจางหรือควบคุมมันภายใต้สภาพที่แน่นอน
อับบาส อารักชี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศอิหร่านและทำหน้าที่หัวหน้าผู้แทนเจรจานิวเคลียร์ของอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟาร์สนิวส์ในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (24 เม.ย.) ว่าสหรัฐฯ เป็นผู้ซื้อน้ำมวลหนักรายแรกของอิหร่านและมหาอำนาจโลกรายอื่นๆ ในนั้นรวมถึงรัสเซียก็แสดงความสนใจด้วยเช่นกัน
“เรากำลังเจรจากับรัสเซีย ในการขายน้ำมวลหนัก 40 ตัน” อารีกชีกล่าว ขณะที่ต่อมาทางกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ก็ยืนยันเช่นกันว่ามอสโกกำลังพิจารณาซื้อน้ำมวลหนักจริง
ในเดือนมกราคม อิหร่านถอดแกนเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์น้ำมวลหนักที่โรงงานนิวเคลียร์อารัค ทางภาคกลางของประเทศ และเติมปูนซีเมนต์ลงไปตามข้อบังคับของข้อตกลงนิวเคลียร์ ขณะที่สหรัฐฯ รัสเซียและจีน เห็นพ้องร่วมกันออกแบบใหม่และสร้างเตาปฏิกรณ์ที่ทันสมัยทดแทนแก่เตหะราน
เมื่อวันศุกร์ (22 เม.ย.) กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงกับอิหร่าน ในการซื้อน้ำมวลหนักปริมาณ 32 ตันจากโครงการนิวเคลียร์ของรัฐบาลเตหะราน มูลค่า 8.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่คาดว่าจะมีการส่งมอบสินค้าภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงซื้อขายน้ำมวลหนักดังกล่าวถูกโจมตีแทบจะทันทีในวอชิงตัน โดยพวกฝ่ายต่อต้านบอกว่า มันเป็นการอ่อนข้อให้แก่อิหร่านอีกครั้งและเลยเถิดไปไกลเกินกว่าการปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตรต่อเตหะรานอย่างมาก ซึ่งก่อรอยร้าวในกำแพงที่ขัดขวางอิหร่านจากระบบการเงินของสหรัฐฯ
“เป็นอีกครั้งที่รัฐบาลของโอบามา ส่งมอบเงินสดเพิ่มเติมแก่รัฐบาลหัวรุนแรงอิหร่าน” เอ็ด รอยซ์ ประธานคณะกรรมการกิจการการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กล่าว “การซื้อวัตถุที่อ่อนไหวของสหรัฐฯ ครั้งนี้เลยเถิดไปไกลเกินกว่าข้อบังคับในข้อตกลงนิวเคลียร์”
ด้าน พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรใช้คำพูดรงๆ ว่า “การซื้อขายครั้งนี้จะเป็นการอุดหนุนโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยตรง และเป็นอ่อนข้ออย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนต่อรัฐผู้สนับสนุนก่อการร้ายชั้นนำของโลก”
อย่างไรก็ตาม นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แก้ต่างว่าข้อตกลงดังกล่าวทำให้รับประกันได้ว่าจะมีการเคลื่อนย้ายน้ำมวลหนักจากอิหร่าน ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในการวิจัยที่สำคัญหรือในอุตสาหกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางนิวเคลียร์
ขณะที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ชี้แจงว่า น้ำมวลหนักที่ซื้อขายจะถูกนำไปขายต่อแก่ภาคเอกชนในประเทศ รวมถึงกลุ่มนักวิจัยและห้องปฏิบัติการแห่งชาติ