รอยเตอร์ - วอชิงตันกำลังพิจารณาแนวทางตอบโต้การทดสอบขีปนาวุธของอิหร่านที่ละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (17 ธ.ค.) ขณะที่เหล่า ส.ว.กดดันให้ตอบโต้อย่างหนักหน่วง
“ตอนนี้เรากำลังพิจารณาอย่างกระตือรือร้นหาแนวทางตอบโต้อย่างเหมาะสมต่อการยิงขีปนาวุธเมื่อเดือนตุลาคม” สตีเฟน มูลล์ แกนนำผู้ประสานงานเกี่ยวกับการบังคับใช้ข้อตกลงนิวเคลียร์นานาชาติกับอิหร่านของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับคณะกรรมาธิการวุฒิสภา
ส.ส.รีพับลิกันเกือบทุกคน เช่นเดียวกับสมาชิกหลายคนในพรรคเดโมแครตของประธานาธิบดีบารัค โอบามา คัดค้านข้อตกลงนิวเคลียร์ที่แถลงเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งอิหร่านตกลงกับชาติมหาอำนาจที่จะตัดทอนโปรแกรมนิวเคลียร์ของพวกเขาแลกกับการปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
ความกังวลในสหรัฐฯ ต่อข้อตกลงดังกล่าวเริ่มหนักหน่วงยิ่งขึ้นนับตั้งแต่อิหร่านทดสอบจรวดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม เช่นเดียวกับเหตุการณ์อื่นๆที่ถูกมองว่าเป็นปรปักษ์ ในนั้นรวมถึงกรณีศาลอิหร่านตัดสินให้นายเจสัน เรซาเอียน หัวหน้าประจำสำนักงานอิหร่านของวอชิงตันโพสต์ มีความผิดฐานจารกรรมด้วยการรวบรวมข้อมูลลับไปให้แก่รัฐบาลศัตรูและทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อความมั่นคงประเทศ ขณะที่เขาอยู่ในการควบคุมตัวของรัฐบาลเตหะรานมานานกว่า 500 วันแล้ว
เหล่าสมาชิกสภาคองเกรสจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในสิ่งที่พวกเขามองว่าแสดงปฏิกิริยาตอบโต้อิหร่านไม่เข้มข้นเพียงพอ
รอยเตอร์รายงานว่า คณะผู้สังเกตการณ์มาตรการคว่ำบาตรพบเมื่อวันอังคาร (15 ธ.ค.) ว่าอิหร่านละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ด้วยการทดสอบยิงขีปนาวุธที่มีศักยภาพส่งหัวรบนิวเคลียร์
คริส คูนส์ ส.ว.จากเดโมแครต บอกว่าสมาชิกสภาคองเกรสจะเริ่มในเดือนหน้า สำหรับผลักดันให้มีการทบทวนพระราชบัญญัติมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปจนถึงสิ้นปี 2016 ขณะที่ มูลล์ บอกว่ารัฐบาลกำลังมองไปข้างหน้าในการทำงานร่วมกับครองเกรสต่อประเด็นดังกล่าว
ในอีกความเคลื่อนไหวหนึ่งแยกกัน สมาชิกวุฒิสภาจากรีพับลิกันราว 2 ใน 3 ลงนามในหนังสือส่งถึงประธานาธิบดีโอบามาเมื่อวันพุธ (16 ธ.ค.) เรียกร้องอย่ายกเลิกมาตรการคว่ำบาตรภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ โดยระบุว่าการทดสอบขีปนาวุธของอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้่เห็นว่าเตหะรานไม่ใส่ใจต่อพันธสัญญานานาชาติเลยแม้แต่น้อย