เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - บรรดาพ่อแม่ชาวจีนจำนวน 2,000 คนรวมตัวประท้วงต่อรัฐบาลปักกิ่ง (18 เม.ย.) เพื่อเรียกร้องขอค่าชดเชยจากนโยบายที่ผิดพลาดของจีนในการประกาศใช้ “นโยบายลูกคนเดียว” ที่ปัจจุบันเลิกบังคับใช้ไปแล้ว โดยบรรดาผู้ประท้วงอ้างเป็นการขโมยโอกาสที่จะมีบุตรเพิ่มขึ้นเพื่อสืบทอด หลังบรรดาผู้ประท้วงต้องเสียบุตรคนเดียวของตนเองไป และทำให้ขาดทายาทสืบสกุล และในการทำข่าวครั้งนี้ทำให้นักข่าวอังกฤษจากหนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟโดนตำรวจจีนจับกุม ก่อนที่จะปล่อยตัวไปพร้อมเตือน “ห้ามยื่นไมค์สัมภาษณ์ผู้ประท้วงเด็ดขาด”
เดลีเทเลกราฟ สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) ว่า ผลจากการบังคับใช้นโยบายการมีบุตรคนเดียวในอดีตทำให้มีชาวจีนจำนวนหนึ่งกลายเป็นผู้ไร้บุตรสืบทอด
สื่ออังกฤษรายงานว่า บรรดาผู้ประท้วงที่เป็นพ่อแม่ชาวจีนต่างสวมหมวกสีขาวที่มีข้อความเขียนเป็นภาษาจีนกำกับว่า “พ่อแม่ที่ระทมทุกข์” ในขณะที่มีบางส่วนกอดรูปภาพของบุตรที่เสียชีวิตไปแล้ว ประท้วงรัฐบาลจีนในกรุงปักกิ่งในวันจันทร์ (18 เม.ย.) เพื่อเรียกร้องให้ทางรัฐบาลจีนจ่ายค่าตอบแทนในการเสียโอกาสของคนเหล่านี้ที่จะมีบุตรเพิ่มขึ้นเพื่อสืบสกุล หลังจากที่บุตรคนเดียวต้องเสียชีวิตไป
หนึ่งในผู้ประท้วง หลี ชางยี (Li Shangyi) วัย 65 ปีได้กล่าวไปขณะร่ำไห้ว่า “ลูกชายของผม หลี เปียว (Li Biao) ได้เสียชีวิตในขณะที่มีอายุได้ 30 ปี และตอนนี้ผมมีชีวิตที่ลำบากมาก” หลีที่อยู่ในชุดทหารถือภาพลูกชายคนเดียวกล่าว พร้อมระบายความในใจต่อว่า “ผมไม่เคยมีทางเลือกที่จะสามารถมีลูกได้อีกคนเพื่อที่จะคอยเลี้ยงดูเมื่อยามแก่เฒ่า”
เดลีเทเลกราฟรายงานเพิ่มเติมว่า รัฐบาลจีนได้ยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่ทว่าความโกรธเคืองของบรรดาพ่อแม่จีนที่สูญเสียลูกคนเดียวของตนเองไปที่คาดว่ามีจำนวนร่วมล้านคนนั้นมีมากขึ้น เป็นเพราะในจีนแล้ว การมีบุตรเปรียบเสมือนการมีหลักประกันชีวิตในยามแก่เฒ่า และทำให้ผู้ที่ไม่มีบุตรต้องมีชีวิตที่ยากลำบากในยามแก่ชรา
ด้านผู้นำการประท้วง ซุน เสี่ยวยุ่ย (Sun Xiaorui) ที่ได้เป็นตัวแทนเข้าเจรจากับเจ้าหน้าที่รัฐบาลปักกิ่งที่สำนักงานประชากรแห่งชาติและการวางแผนครอบครัว ซึ่งเป็นจุดที่ม็อบพ่อแม่ชาวจีนปักหลักประท้วงอยู่ด้านหน้ากล่าวให้ความเห็นถึงจุดยืนว่า “ทางเราต้องการให้ปักกิ่งออกมารับผิดชอบช่วยเหลือชีวิตของพวกเราเมื่อยามแก่ชรา” และซุนยังกล่าวต่อกับเดลีเทเลกราฟว่า “ผมมุ่งมั่นในเรื่องนี้ เพราะรัฐบาลปักกิ่งควรที่จะอย่างน้อยเปิดเผยถึงเงื่อนเวลาในการออกกฎหมาย หรืออะไรสักอย่างเพื่อเป็นหลักประกัน แต่กลับเป็นว่าปักกิ่งกลับปิดประตูปฏิเสธทุกช่องทางในความรับผิดชอบที่ต้องเกิดขึ้น”
ซุนกล่าวยืนยันว่า การประท้วงเรียกร้องค่าชดเชยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3 วัน และคาดหวังว่าทางผู้ชุมนุมจะได้รับคำตอบที่พอใจจากปักกิ่ง
อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษชี้ว่า ถึงแม้จะมีการจัดประท้วงเกิดขึ้นในจีน แต่ทว่ารัฐบาลจีนมักจะจัดการด้วยความเฉียบขาดเนื่องจากขัดต่อความสงบภายใต้การปกครองแบบคอมมิวนิสต์
และเดลีเทเลกราฟยังรายงานเพิ่มเติมต่อว่า ม็อบพ่อแม่ชาวจีนของซุนอยู่ภายใต้การจับตาของตำรวจจีนอย่างใกล้ชิด ซึ่งสื่ออังกฤษรายงานว่า “นักข่าวประจำกรุงปักกิ่งของเดลีเทเลกราฟถูกจับกุมตัวก่อนที่จะปล่อยตัวไปในภายหลัง พร้อมยังสั่งห้ามไม่ให้สัมภาษณ์ผู้ประท้วง และสั่งให้ออกไป”
เดลีเทเลกราฟรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณที่จุดประท้วงตำรวจจีนได้นำรถบัสจำนวนมากจอดต่อแถวเป็นแนวยาวขวางด้านหน้าบริเวณการประท้วง ซึ่งแกนนำการประท้วงม็อบพ่อแม่จีนชี้ว่า แท็กติกนี้ใช้เพื่อทำให้ผู้ประท้วงต้องรวมตัวอยู่ในที่จำกัด และยังป้องกันไม่ให้คนภายนอกสามารถเดินเข้าร่วมเพิ่มเติมได้
และมีรายงานว่า มีผู้ประท้วงบางส่วนถูกบังคับให้ต้องอยู่ภายในหมู่บ้านของตนเอง ซึ่งรวมไปถึง ชาง เหลียงยิง (Zhang Liangying) ที่บุตรชายคนเดียววัย 16 ปีจบชีวิตลงด้วยการฆ่าตัวตายในเดือนพฤศจิกายน 2014 ซึ่งชางเป็นหนึ่งในผู้ประท้วงที่ต้องการให้ปักกิ่งจ่ายค่าชดเชยความสูญเสียให้บรรดาพ่อแม่ที่ต้องเสียบุตรคนเดียวไป และไม่สามารถมีบุตรคนใหม่ได้ตามธรรมชาติ
ทั้งนี้เป็นเพราะผู้ประท้วงเหล่านี้ที่เคยอยู่ภายใต้กฎหมายป่าเถื่อน “นโยบายลูกคนเดียว” ในอดีต จำต้องถูกบังคับให้ทำหมัน หรือวิธีกระบวนการอื่นๆ เพื่อป้องกันการมีบุตรต่อไปในอนาคต
ซึ่งชางได้กล่าวให้ความเห็นว่า “ความทุกข์ระทมของพวกเราเกิดมาจากนโยบายแห่งชาติ ดังนั้นชาติต้องรับผิดชอบด้วยการยื่นมือเข้าช่วยเหลือพวกเรา”
และชางยังกล่าวต่อไปว่า “ดิฉันเชื่อว่าดิฉันยังสามารถมีวิถีทางอื่นที่จะทำให้มีบุตรได้อีกครั้ง หากดิฉันสามารถมีบุตรด้วยวิธีตั้งครรภ์ด้วยการผสมเทียม IVF หรือเด็กในหลอดแก้ว แต่นั่นต้องมีค่าใช้จ่ายถึง 22,000 หยวน หรือ 2,200 ปอนด์ และดิฉันไม่มีเงินจุดนี้”
เดลีเมล์รายงานต่อว่า มีรัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งอาจให้ความช่วยเหลือสนับสนุนการมีบุตรแก่บรรดาพ่อแม่ชาวจีนที่สูญเสียบุตรคนเดียวของพวกเขาไป แต่ทว่ามณฑลเหอเป่ยของชางไม่มีนโยบายช่วยเหลือในเรื่องนี้
NBC NEWS รายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ (19 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายร้อยนายได้กวาดต้อนบรรดาพ่อแม่ผู้ประท้วงให้ขึ้นรถบัสออกจากบริเวณจุดชุมนุม หลังจากยังคงปักหลังประท้วงต่อเนื่องมาจนถึงวันอังคาร (19 เม.ย.)
ซึ่งสื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ถึงแม้ปักกิ่งจะออกมาประกาศปรับปรุงกฎหมายการมีบุตร โดยอนุญาตให้ครอบครัวชาวจีนสามารถมีบุตรได้ 2 คน แต่ทว่าบรรดาผู้ที่ไม่เห็นด้วยต่างออกมาแสดงความคิดเห็นว่ากฎหมายใหม่นี้จะไม่ช่วยเปลี่ยนแปลงวิกฤตโครงสร้างทางประชากรของจีนเท่าใดนัก ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2050 จีนจะมีประชากรสูงถึง 1.45 พันล้านคน ในขณะที่ 1 ใน 3 ของประชากรจีนจะมีอายุเข้าในวัยชราที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 60 ปีไปแล้ว และการหดตัวของประชากรในวัยทำงานจะไม่สามารถตอบสนองได้
นอกจากนี้ NBC NEWS ชี้ว่า มีพ่อแม่ชาวจีนบางคนยังออกมาเปิดเผยว่า ถึงแม้พวกเขาจะได้รับเงินช่วยเหลือจากภาครัฐจำนวน 500 หยวน หรือ 77 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ทว่าคนเหล่านี้ยืนกรานว่าเงินก้อนนี้ที่ได้รับไม่เพียงพอในการดำรงชีพ หรือเทียบกับบุตรที่ได้เสียชีวิตไปที่หากยังมีชีวิตอยู่จะสามารถจุนเจือพวกเขาได้มากกว่านี้