เอเอฟพี - หญิงสูงวัยชาวคริสต์ถูกลงโทษโบยเกือบ 30 ครั้งในความผิดฐานจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซีย ถือเป็นครั้งแรกที่มีการใช้กฎหมายอิสลามลงโทษคนนอกศาสนา
หญิงวัย 60 ปี ถูกเฆี่ยนด้วยหวายต่อหน้าผู้คนนับร้อยเมื่อวันอังคาร (12 เม.ย.) โดยยังมีชายหญิงมุสลิมอีกคู่หนึ่งที่ถูกนำตัวออกมาโบย 100 ครั้ง โทษฐานคบชู้นอกสมรส
อาเจะห์เป็นจังหวัดเดียวของอินโดนีเซียที่มีการนำกฎหมายอิสลาม หรือ “ชารีอะห์” มาบังคับใช้อย่างจริงจัง ซึ่งการสั่งโบยผู้ที่กระทำผิดหลักศาสนาอิสลามก็เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ และได้รับความสนใจจากคนในชุมชน
ผู้ที่ถูกจับได้ว่ามีความสัมพันธ์นอกสมรส รักร่วมเพศ ดื่มเหล้า หรือแม้กระทั่งเข้าไปสนิทสนมกับคนเพศตรงข้ามที่ยังไม่แต่งงานก็อาจจะถูกลงโทษด้วยวิธีนี้
ลิลี สุปาร์ลี เจ้าหน้าที่อาวุโสจากสำนักงานอัยการจังหวัดอาเจะห์ บอกกับเอเอฟพีว่า เดิมทีบทลงโทษตามกฎหมายอิสลามจะใช้เฉพาะกับพลเมืองมุสลิมเท่านั้น แต่เมื่อปีที่แล้วมีการออกเทศบัญญัติ ซึ่งอนุญาตให้นำบทลงโทษตามชารีอะห์มาใช้กับคนที่ไม่ใช่มุสลิมได้ในบางกรณี
“นี่เป็นครั้งแรกที่คนซึ่งไม่ใช่มุสลิมถูกลงโทษด้วยกฎหมายอาญาของอิสลาม” เขากล่าว
จังหวัดอาเจะห์นำเอากฎหมายอิสลามมาบังคับใช้แบบค่อยเป็นค่อยไป หลังได้รับอำนาจปกครองตนเองเพิ่มขึ้นในปี 2001 โดยก่อนหน้านั้นก็ได้เริ่มบังคับใช้กฎหมายห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามเล่นการพนัน ห้ามการปฏิสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน รวมไปถึงการแสดงความรัก เช่น การสัมผัสหรือจุมพิต ระหว่างบุคคลที่ไม่ใช่สามีภรรยากัน
กฎหมายชารีอะห์เริ่มถูกบังคับใช้อย่างเข้มข้นหลังจากที่อาเจะห์มีการทำสัญญาสันติภาพกับรัฐบาลกลางอินโดนีเซีย เพื่อยุติความรุนแรงจากกลุ่มก่อความไม่สงบ เมื่อปี 2005
ทั้งนี้ การเฆี่ยนในอาเจะห์มักจะใช้ไม้ที่ยาวและเรียวบาง โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้กระทำผิดรู้สึกอับอายมากกว่าความเจ็บปวดทางกาย และหากไม่ต้องการถูกโบยก็จะต้องเสียค่าปรับเป็นทองคำ หรือรับโทษจำคุกแทน
แม้ประชากรกว่า 90% ของอินโดนีเซียจะนับถือศาสนาอิสลาม แต่ส่วนใหญ่ยึดถือหลักปฏิบัติแบบสายกลาง