เอเอฟพี/MGR Online - นายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์ลาออกจากตำแหน่งในวันอังคาร (5 เม.ย.) กลายเป็นเหยื่อทางการเมืองรายแรกของเรื่องอื้อฉาวระดับโลก เกี่ยวกับการเปิดโปงเอกสารลับทางการเงินอันครึกโครมที่ถูกเรียกว่า “ปานามา เปเปอร์ส”
นายซิกมุนเดอร์ เดวิด กุนน์ลอจสัน นายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์ กลายเป็นเหยื่อรายใหญ่ที่สุดในโลกของเอกสารข้อมูลธุรกรรมทางการเงินกว่า 11.5 ล้านฉบับที่รั่วไหลออกมาจากบริษัทกฎหมาย “มอสแซค ฟอนเซกา” ในปานามา ที่เรียกกันว่า “ปานามา เปเปอร์ส”
“ปานามา เปเปอร์ส” เปิดโปงข้อมูลชุดใหญ่แสดงให้เห็นว่ามอสแซค ฟอนเซกา อาจช่วยลูกค้าฟอกเงิน เลี่ยงการถูกคว่ำบาตร และหลบเลี่ยงภาษีผ่านการเปิดบริษัทการค้านอกประเทศ (ออฟชอร์คอมปานี) ที่มีมากถึงราว 241,000 แห่งในช่วง 38 ปีที่ผ่านมา
โดยกลุ่มลูกค้ามีรายชื่อของบุคคลชั้นนำที่มีชื่อเสียงจากหลายวงการ รวมถึงผู้นำทางการเมืองราว 140 คน ในจำนวนนี้มีผู้นำประเทศทั้งในอดีตและปัจจุบันรวม 12 คนที่ถูกพบว่ามีความเชื่อมโยงอยู่ด้วย
“ท่านนายกรัฐมนตรีบอกกับที่ประชุมสมาชิกรัฐสภาของพรรค ว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและผมจะทำหน้าที่แทน” นายซิกูร์ดูร์ อินกิ โยฮันส์สัน บอกกับสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง
เหล่าผู้นำคนอื่นๆ และสตาร์คนดังที่มีชื่อปรากฏอยู่ในเอกสารที่รั่วไหล ต่างพากันออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาต่างๆ โดยปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรผิดแม้มันก่อความเดือดดาลจากทั่วโลก
รายชื่อเหล่านั้นประกอบด้วยคนใกล้ชิดของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย, ญาติๆ ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีน, บิดาผู้ล่วงลับของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายเดวิด คาเมรอน รวมถึงคนดังในหลากหลายสาขา อย่างเช่น ลิโอเนล เมสซี ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ซูเปอร์สตาร์ในวงการลูกหนัง
นายกรัฐมนตรีกุนน์ลอจสันตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก หลังเอกสารเผยให้เห็นว่าเขาและภรรยาซุกซ่อนบัญชีทรัพย์สินจำนวนหลายล้านดอลลาร์ไว้ในบริษัทการค้านอกประเทศที่เปิดขึ้นที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น ไอส์แลนด์ โดยนายกุนน์ลอจสันไม่ได้สำแดงบัญชีว่าเป็นเจ้าของบริษัทดังกล่าวตอนรับตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาเมื่อ 7 ปีก่อน
แม้ว่านายกรัฐมนตรีรายนี้ปฏิเสธว่าไม่เคยซุกซ่อนเงินในต่างแดน แต่แรงกดดันที่มีต่อรัฐบาลของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยประชาชนชุมนุมปาไข่บนท้องถนนสายต่างๆ เมื่อวันจันทร์ (4 เม.ย.) และมีแผนเดินขบวนกันอีกรอบในวันอังคาร (5 เม.ย.)
ในเอกสารที่รั่วไหลของบริษัทกฎหมายมอสแซค ฟอนเซกา ยังปรากฏชื่อของประธานาธิบดียูเครนและกษัตริย์ของซาอุดีอาระเบีย ทั้งนี้ นายเปโตร โปโรเชนโก ผู้นำยูเครนปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่บางทีเขาอาจต้องเผชิญกับความพยายามถอดถอนเขาพ้นตำแหน่ง
รามอน ฟอนเซกา หนึ่งในผู้ก่อตั้ง “มอสแซค ฟอนเซกา” ออกมาประณามผู้ที่เปิดโปงความลับขององค์กร ว่าเป็นความผิดอาญาอุกฉกรรจ์และเป็นการโจมตีต่อปานามา