เอเอฟพี/เอพี – เช้านี้(1 )เกิดเหตุจลาจลในค่ายผู้อพยพบนเกาะไคออส(Chios)ของกรีซ หลังรับผู้ลี้ภัยอาศัยจนแน่นขนัด ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 5 ราย ในขณะที่ข้อตกลงวิกฤตผู้ลี้ภัยระหว่างสหภาพยุโรปและตุรกีจะเริ่มมีผลบังคับใช้ โดยในวันจันทร์(4)ที่จะถึงนี้ ที่ทางสหภาพยุโรปจะเริ่มต้นส่งผู้ลี้ภัยในกรีซล็อตแรก 500 คนกลับไปยังตุรกีตามข้อตกลง
เอพีรายงานวันนี้(1)ว่า ในช่วงเช้าวันศุกร์(1)ที่ผ่านมาเกิดเหตุปะทะระหว่างกลุ่มผู้ลี้ภัยอัฟกันและกลุ่มผู้ลี้ภัยซีเรียในค่ายผู้อพยพบนเกาะไคออส(Chios)ของกรีซ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชี้ว่า เหตุปะทะเกิดมาจากความแน่นขนัดของค่ายแห่งนี้ และจากเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 5 ราย
ซึ่งในขณะเดียวกันเอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ข้อตกลงแก้ปัญหาวิกฤตผู้ลี้ภัยกรีซระหว่างอียูและตุรกีจะเริ่มต้นมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ โดยมีรายงานว่า จะมีการเริ่มจัดส่งผู้อพยพจากกรีซกลับไปยังอังการาตั้งแต่วันจันทร์(4)ที่จะถึงนี้
โดยในวันพฤหัสบดี(31 มี.ค)นายกรัฐมนตรีตุรกี อาห์เหม็ด ดาวูโตกลู ได้ออกมายืนยันของการเตรียมรับกลับของกลุ่มผู้อพยพผ่านแถลงการณ์ทางโทรทัศน์
ซึ่งจากข้อตกลง เอเอฟพีชี้ว่า ในทางกลับกันอียูจะยอมรับผู้อพยพชาวซีเรียในตุรกีเข้าไปอาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในขณะที่ทางตุรกีต้องยอมเปิดประเทศรับผู้อพยพทุกคนจากกรีซ
โดยดาวูโตกลูได้ให้คำมั่นยืนยันกับประชาชนเติร์กว่า ในข้อตกลงที่ทางอังการาทำร่วมกับอียูนั้น จะไม่ทำให้ผู้อพยพที่มีอยู่ในประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้น และจะไม่มีการสูญเสียชีวิตของผู้อพยพที่ต้องการเข้าสู่ยุโรปด้วยการข้ามฝั่งทางทะเลเอเจี้ยน
ซึ่งนายกรัฐมนตรีตุรกีประกาศว่า “การบังคับใช้ข้อตกลงจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 เมษายนที่จะถึงนี้
แต่อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีชี้ว่า รายละเอียดของข้อตกลงวิกฤตผู้อพยพนี้ยังไม่กระจ่าง ซึ่งหนึ่งในแหล่งข่าวอียูได้เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า “ข้อผูกพันสำคัญในข้อตกลงนี้ระหว่างอียูและตุรกีคือ การส่งตัวผู้อพยพจำนวน 500 คนกลับไปยังตุรกีในวันที่ 4 เมษายนที่จะถึงนี้”
ทั้งนี้ผู้อพยพจากกรีซที่จะถูกส่งตัวกลับนี้รวมไปถึง ผู้อพยพซีเรียที่ไม่ได้ร้องขอการลี้ภัย ผู้อพยพชาวอัฟกันและผู้อพยพชาวปากีสถาน” แหล่งข่าวอียูชี้ และแหล่งข่าวยังยืนยันว่า คนเหล่านี้จะกลายเป็นผู้อพยพกลุ่มแรกที่ถูกส่งตัวกลับตามข้อตกลงระหว่างอียูและตุรกีในวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา
ด้านโฆษกสหภาพยุโรป นาตาชา เบอรทวด(Natasha Bertaud) ได้ยืนยันด้วยเช่นกันถึงการเริ่มต้นบังคับใช้ข้อตกลงอียู-ตุรกีในวันจันทร์(4)นี้ และยังกล่าวต่อว่า ในส่วนของสหภาพยุโรป อียูจะยอมรับผู้อพยพซีเรียที่พักอยู่ภายในค่ายผู้อพยพในอังการา เพื่อไปอาศัยในยุโรปอย่างถูกต้องทางกฎหมายต่อไป
ในขณะที่แหล่งข่าวรัฐบาลกรีซให้ความเห็นกับเอเอฟพีว่า ในส่วนผู้อพยพที่จะถูกส่งตัวกลับคาดว่าน่าจะมาจากค่ายผู้อพยพบนเกาะไคออสหรือเกาะเลสบอส(Lesbos) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้อพยพที่เดินทางมาจากตุรกี และรวมไปถึงจากศูนย์ลงทะเบียนผู้อพยพ ที่ในขณะนี้มีผู้อพยพอาศัยอยู่อย่างแน่นขนัด
นอกจากนี้เอเอฟพียังรายงานเพิ่มเติมว่า ในฝั่งตุรกี หนังสือพิมพ์เติร์ก ฮูริเย็ต รายงานความพร้อมในส่วนของอังการาว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดรัฐบาลตุรกีชี้ว่า จะมีการจัดตั้งศูนย์ผู้อพยพใกล้เมืองดิคิลี( Dikili) จ.อิซเมียร์(Izmir) สำหรับผู้อพยพล็อตแรกที่จะถูกส่งตัวกลับมาจากกรีซในวันจันทร์(4)นี้
ซึ่งหนังสือพิมพ์เติร์กได้ถอดคำพูดของแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตุรกีว่า ผู้อพยพที่ถูกส่งกลับเข้ามาจะถูกลงทะเบียนภายใน 24 ชม. ก่อนที่จะถูกส่งไปยังศูนย์ผู้อพยพในจ.อิซเมียร์ต่อไป หรืออาจถูกส่งไปยังศูนย์ผู้อพยพอื่นๆในตุรกี
และนอกจากนี้ ภายใต้ข้อตกลงอียู-ตุรกียังระบุว่า สำหรับผู้อพยพหนีภัยทางเศรษฐกิจทุกคนที่ขึ้นฝั่งกรีซหลังวันที่ 20 มีนาคม 2016 จะต้องถูกส่งตัวกลับตุรกี ถึงแม้ในสัญญาจะระบุว่าให้พิจารณาในแต่ละกรณีเป็นรายๆไป
เอเอฟพียังรายงานต่อว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลตุรกียังระบุว่า จำนวนผู้อพยพชาวซีเรียในตุรกีที่เท่ากับจำนวนผู้ลี้ภัยที่ทางกรีซส่งเข้ามา จะถูกส่งไปอาศัยในสหภาพยุโรปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เริ่มตั้งแต่วันจันทร์(4)นี้
แต่ทว่าถึงแม้การบังคับใช้จะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ แต่ทว่ายังหลายฝ่ายเคลือบแคลง และไม่แน่ชัดในทางปฎิบัติ เป็นต้นว่า ทางกรีซยังไม่แน่ใจในจำนวนตัวเลขของผู้อพยพที่รัฐบาลกรีซต้องส่งกลับไปให้ตุรกี แต่กรีซได้สั่งให้เจ้าน้าที่กรีซจำนวน 2,300 คนเตรียมพร้อมรับการบังคับใช้ข้อตกลงนี้