xs
xsm
sm
md
lg

ฟินแลนด์ประกาศ “ผู้อพยพชาวซีเรีย” ควรทำงานให้รัฐฟรี หลังเข้าประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - รัฐบาลฟินแลนด์แถลงในวันอังคาร (8 ธ.ค.) ว่า ผู้อพยพชาวซีเรียที่ได้รับสิทธิอพยพเข้าประเทศควรทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง และจำเป็นต้องได้รับการเรียนรู้ด้านสังคมและวัฒนธรรมของฟินแลนด์ หลังออกมาตรการเข้าเมืองให้เข้มงวดมากขึ้น

รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (8) ว่า รัฐบาลฟินแลนด์ออกแถลงการณ์ในวันอังคารที่ประกาศจะเดินหน้าประเมินการรับผู้อพยพเข้าประเทศ 2 ครั้งต่อปี และหากจำเป็นเฮลซิงกิประกาศจะถอดถอนสิทธิการเป็นผู้อาศัย โดยก่อนหน้านี้ทางฟินแลนด์ได้ประเมินความจำเป็นในการรับผู้อพยพจากอัฟกานิสถาน ซึ่งทางเฮลซิงกิได้ประกาศว่าได้ยกเลิกการมอบสิทธิการเข้าประเทศเพื่อลี้ภัยจากทางใต้และทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน

ขณะที่นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ จูฮา ซิปิลา (Juha Sipila) ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า “มาตรการใหม่ที่ออกมาจะมีความเข้มงวดในเชิงปฏิบัติมากขึ้น และยังทำให้ปัจจัยที่จะดึงดูดผู้อพยพเข้าประเทศให้หมดไป”

รอยเตอร์ชี้ว่า เฉพาะในปีนี้มีผู้ลี้ภัยเดินทางเข้าฟินแลนด์จำนวนมากถึง 32,000 คน เมื่อเทียบกับ 3,600 คนในปีที่ผ่านมา

และรัฐบาลฟินแลนด์ยังแถลงเพิ่มเติมว่าจะเดินหน้าเร่งส่งตัวผู้อพยพที่ขาดคุณสมบัติกลับไป คาดว่าจะมีมากถึง 2 ใน 3 ของจำนวนทั้งหมด

รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมอีกว่า เป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจของฟินแลนด์หดตัวลงอย่างต่อเนื่องเข้าปีที่ 4 ทำให้มีกลุ่มเคลื่อนไหวไม่พอใจต่อผู้ลี้ภัยซีเรียเข้าประเทศมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยมีรายงานว่าตำรวจฟินแลนด์ในเดือนที่ผ่านมา ได้ทำการสอบสวนคดีผู้ลี้ภัยที่เป็นผู้ต้องสงสัยคดีข่มขืน นอกจากนี้อาชญากรรมการกีดกันทางเชื้อชาติยังมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งจากการรายงานของหนังสือพิมพ์เฮลซิงกิไทม์สในวันที่ 25 พฤศจิกายนล่าสุด พบว่าตำรวจฟินแลนด์ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยวัยรุ่นชาย 2 คน อายุ 15-17 ปี เป็นชาวต่างชาติไปควบคุมตัวฐานต้องสงสัยข่มขืนเด็กหญิงอายุ 14 ปีในเมืองเคมเพล (Kempele) ห่างจากเมืองอูลู (Oulu) ไปทางใต้ราวสิบกว่ากิโมเมตร ซึ่งเมืองเคมเพลแห่งนี้มีศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยตั้งอยู่ และมีรายงานว่าหลังการจับกุมตัววัยรุ่นต่างชาติ มีประชาชนในพื้นที่จำนวนมากไม่พอใจและเข้าไปเฉียดใกล้ที่ศูนย์อพยพแห่งนี้

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของเฮลซิงกิเมื่อวานนี้ (8) รัฐบาลฟินแลนด์ของซิปิลายังประกาศจะจัดหางานให้กับผู้อพยพที่ยัวอยู่ในกลุ่มวัยทำงาน โดยอ้างว่าจะช่วยเยียวยาคนเหล่านั้นด้านจิตใจ

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนอาจจะไม่ใช่ข่าวดีสำหรับผู้อพยพชาวซีเรีย เพราะจากคำแถลงชี้ว่า งานที่จะจัดหาให้ทำไม่ใช่เพื่อการยังชีพสำหรับเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฟินแลนด์ แต่เป็นงานที่ไม่ได้รับค่าตอบแทน

โดยรัฐมนตรีแรงงานฟินแลนด์ จาริ ลินด์สตรอม (Jari Lindstrom) ให้สัมภาษณ์ในประเด็นนี้ว่า “ไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่มีค่าจ้าง ซึ่งอาจเป็นงานที่ไม่ได้อยู่ภายในตัวตึกอาคาร หรืออาจเป็นงานช่างที่ศูนย์พักพิง เพราะยิ่งคนอยู่นานๆ โดยไม่ได้ทำอะไร คนคนนั้นอาจหงุดหงิดหรือมีสภาพจิตใจไม่สู้ดี”

นอกจากนี้ เฮลซิงกิยังมีแผนที่จะจัดทำข้อมูลการเรียนรู้เกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรมของฟินแลนด์ให้ผู้อพยพซีเรียที่ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมได้รับทราบ โดยเฉพาะในแง่สิทธิสตรีและเด็ก

โดยลินด์สตรอมกล่าวว่า “ผู้ลี้ภัยเข้าประเทศจะได้รับข้อมูลนี้ และต้องรับทราบในจุดนี้ทุกราย และไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไม่รับรู้”

ทั้งนี้ ดูเหมือนฟินแลนด์เป็นประเทศเดียวในแถบนอร์ดิกที่มีนโยบายแข็งกร้าวต่อผู้อพยพเมื่อเปรียบเทียบกับนอร์เวย์ และโดยเฉพาะสวีเดน ประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรัฐบาลฟินแลนด์ หรือจากในส่วนประชาชน โดยล่าสุดในอังคาร (8) พบตึกศูนย์พักพิงแห่งใหม่สำหรับผู้อพยพที่ยังไม่ได้เปิดใช้ในเมือง Rauma ถูกลอบวางเพลิงในวันศุกร์ (4) ที่ผ่านมา ซึ่งจากการเปิดเผยของตำรวจในพื้นที่พบว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง

ทั้งนี้ ตึกแห่งนี้มีกำหนดจะเปิดให้กับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียย้ายเข้ามาอาศัยในปีหน้าที่จะถึงนี้ ซึ่งสถานนี้ในปัจุบันเป็นที่พักพิงของผู้อพยพที่เดินทางมาจากภายในสหภาพยุโรป หรือคนงานก่อสร้างไซต์โรงงานไฟฟ้าพลังงานออลคิลูโอโต (Olkiluoto)





กำลังโหลดความคิดเห็น