เอเจนซีส์ - มหาเศรษฐี “โดนัลด์ ทรัมป์” หนึ่งในผู้สมัครตัวเก็งของสายรีพับลิกัน ระบุว่าตนไม่ปฏิเสธแนวคิดการสร้าง “ฐานข้อมูลประชากรมุสลิม” ขึ้นในสหรัฐฯ หลังเกิดเหตุวินาศกรรมครั้งใหญ่ในกรุงปารีส
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวการเมืองยาฮูนิวส์ มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ซึ่งปรารถนาจะได้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2016 ระบุว่า เขาพร้อมจะพิจารณา “มาตรการขั้นรุนแรง” เพื่อเฝ้าระวังชุมชนชาวมุสลิม และ “ไม่ตัดความเป็นไปได้” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อาจรวมถึงการสร้างฐานข้อมูล หรือออกบัตรประจำตัวประชาชนชนิดพิเศษแก่ชาวมุสลิมด้วยหรือไม่
กลุ่มอิสลามิสต์หัวรุนแรงได้แยกย้ายกันก่อเหตุโจมตีหลายจุดในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 13 พ.ย. จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 129 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 300 คน และหลังจากนั้นกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ก็ได้ออกมาประกาศความรับผิดชอบ
“เราคงต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน” ทรัมป์ กล่าว
“มาตรการเช่นนี้อาจทำให้บางคนรู้สึกแย่ แต่ผมเชื่อว่าทุกคนคงเข้าใจว่าความปลอดภัยต้องมาก่อน”
ทรัมป์ ซึ่งเคยเสนอให้ทางการสหรัฐฯ จับตากิจกรรมภายในมัสยิด และเนรเทศผู้อพยพชาวซีเรีย กล่าวเสริมอีกว่า สหรัฐฯ ต้องทำอะไรบางอย่าง “ที่เราไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นในประเทศนี้ ทั้งในแง่ของข้อมูล และการเรียนรู้ความเคลื่อนไหวของศัตรู”
ผู้ว่าการจาก 10 กว่ารัฐ รวมถึงสมาชิกพรรครีพับลิกัน เรียกร้องให้วอชิงตันหยุดรับผู้ลี้ภัยซีเรียเข้ามาตั้งถิ่นฐานในอเมริกา หลังมีรายงานว่า หนึ่งในมือระเบิดฆ่าตัวตายที่ปารีสแฝงตัวเข้ายุโรปพร้อมกับคลื่นผู้ลี้ภัย
เบน คาร์สัน ประสาทศัลยแพทย์วัยเกษียณ ซึ่งเป็นผู้สมัครอีกคนหนึ่งของสายรีพับลิกันที่มีคะแนนนิยมนำโด่งในเวลานี้ ถึงกับเปรียบเปรยผู้ลี้ภัยซีเรียเป็น “สุนัข” ระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่รัฐแอละแบมาเมื่อวันอังคาร (17)
“ถ้ามีหมาบ้าตัวหนึ่งเพ่นพ่านอยู่ในชุมชนของคุณ คุณคงไม่คิดว่ามันมีดีอยู่บ้างกระมัง” คาร์สัน กล่าว
“และคุณก็ต้องกันลูกหลานให้ออกห่างจากมัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณเกลียดสุนัขทุกตัว”
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ วิจารณ์พรรครีพับลิกันว่า “ตีโพยตีพายเกินเหตุ” และ “ไม่มีความเป็นอเมริกัน” ที่ออกมาเรียกร้องให้สหรัฐฯ ขับไล่ไสส่งผู้ลี้ภัยมุสลิม