เอเอฟพี - รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอิหร่าน ระบุว่า เขามั่นใจว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จะไม่ดำเนินการใด ๆ กับการทดสอบขีปนาวุธของอิหร่าน ถึงแม้ว่าจะมีสียงเรียกร้องจากมหาอำนาจตะวันตกก็ตาม
อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหรัฐฯ เขียนในจดหมายร่วมลงนามในวันจันทร์ (28) เรียกร้องให้มีการดำเนินการกับที่พวกเขาระบุว่าละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับหมุดหมายระหว่างอิหร่าน และชาติมหาอำนาจหลัก เมื่อปีที่แล้ว รวมถึงมติของคณะมนตรีความมั่นคงที่ปกป้องข้อตกลงนี้
พวกเขาระบุว่า ขีปนาวุธ 2 ประเภทที่ถูกยิงโดยอิหร่าน เมื่อวันที่ 8 และ 9 มีนาคม คือ ชาบับ-3 และ กีอัม-1 เป็นการฝ่าฝืนมติดังกล่าว เนื่องจากมันสามารถนำส่งหัวรบนิวเคลียร์ได้ ข้อกล่าวหาซึ่งอิหร่านปฏิเสธ
“ผมมั่นใจว่า คณะมนตรีความมั่นคง และองค์การสหประชาชาติ จะไม่ตอบสนอง เพราะว่าการกระทำของเราไม่ได้ทั้งละเมิดแผนปฏิบัติการเบ็ดเสร็จร่วม (ข้อตกลงนิวเคลียร์เมื่อเดือนกรกฎาคม) หรือขัดต่อมติที่ 2231” พล.อ.ฮอสเซน เดห์กัน กล่าว
เขาเน้นย้ำสิ่งที่อิหร่านปฏิเสธมาโดยตลอด ว่า พวกเขาไม่เคยมีความทะเยอทะยานใด ๆ ที่จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และระบุว่า ขีปนาวุธของพวกเขาถูกออกแบบมาเพื่อรองรับหัวรบแบบธรรมดาเท่านั้น
นักการทูตหลายคนที่องค์การสหประชาชาติ ระบุว่า คณะมนตรีความมั่นคงคาดว่าจะประชุมกันในวันศุกร์ (1) เพื่อพิจารณาข้อกล่าวหาการละเมิดมติที่ 2231 นี้
แต่พวกเขาระบุว่า คงจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ เนื่องจากสมาชิกถาวรที่ถืออำนาจวีโตอย่างรัสเซีย ไม่เห็นด้วยกับการคว่ำบาตรใด ๆ ต่ออิหร่านเพิ่มอีก
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (24) วอชิงตันได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวจากกรณีการทดสอบในเดือนนี้ ด้วยการเพิ่มหลายองค์กรที่เกี่ยวข้องกับโครงการขีปนาวุธของอิหร่านลงในบัญชีดำ
กระทรวงการคลังสหรัฐฯคว่ำบาตร กับบริษัท Shahid Nuri Industries และบริษัท Shahid Movahed Industries สองหน่วยธุรกิจของบริษัท Shahid Hemmat Industrial Group ที่วอชิงตัน ระบุว่า รับผิดชอบการผลิตขีปนาวุธเชื้อเพลิงเหลวของอิหร่าน
กระทรวงยังได้คว่ำบาตรกองบัญชาการขีปนาวุธ อัล-กาดีร์ (Al-Ghadir Missile Command) ของหน่วยพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ซึ่งพวกเขาระบุว่าดูเหมือนจะมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของขีปนาวุธดังกล่าว