รอยเตอร์ - ผู้นำสูงสุดของอิหร่านระบุในวันนี้ (30) ว่า ขีปนาวุธคือกุญแจสู่อนาคตของสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ พร้อมแสดงท่าทีสนับสนุนหน่วยพิทักษ์การปฏิวัติ (Revolutionary Guard) ที่ถูกตะวันตกวิพากษ์วิจารณ์จากการทดสอบขีปนาวุธ
ผู้นำสูงสุด อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนาอี สนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำกับชาติมหาอำนาจเมื่อปีที่แล้ว แต่กลับเรียกร้องให้อิหร่านอย่ารื้อฟื้นความสัมพันธ์กับสหรัฐฯและพันธมิตรไปมากกว่านี้ และให้รักษาความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและการทหารเอาไว้
“พวกที่บอกว่าอนาคตอยู่ในการเจรจาไม่ใช่ขีปนาวุธนั้นไม่เป็นพวกโง่เขลาก็พวกคนทรยศ” คาเมนาอี ซึ่งมีอำนาจตัดสินชี้ขาดทุกเรื่องเกี่ยวกับรัฐนี้ กล่าวในข้อความซึ่งถูกโพสต์บนเว็บไซต์ของเขา
“หากสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้มุ่งการเจรจาแต่ไม่มีอำนาจป้องกัน ก็คงไม่วายจะต้องยอมจำนนต่อคำขู่จากประเทศอ่อนแอเสียทุกประเทศ”
ความคิดเห็นของเขาอาจเป็นการส่งข้อความถึงอดีตประธานาธิบดี อัคบาร์ ฮาเชมี ราฟซานจานี ผู้นำโดยพฤตินัยของพันธมิตรทางการเมืองสายกลาง ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทวีตข้อความว่า “อนาคตอยู่ในการเจรจาไม่ใช่ขีปนาวุธ”
หน่วยพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านทำการทดสอบขีปนาวุธเมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งพวกเขาระบุว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงอำนาจการยับยั้งแบบปลอดนิวเคลียร์ของอิหร่าน
สหรัฐฯและมหาอำนาจยุโรปหลายชาติระบุว่า การทดสอบดังกล่าวละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ห้ามไม่ให้อิหร่านทดสอบขีปนาวุธที่รองรับหัวรบนิวเคลียร์ได้ ในจดหมายร่วมลงนามที่ถูกเห็นโดยรอยเตอร์เมื่อวันอังคาร (29)
แต่รัสเซียสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงที่มีอำนาจวีโต้ระบุว่าการทดสอบดังกล่าวไม่ได้ละเมิดมติที่ 2231 อิหร่านปฏิเสธมาโดยตลอดว่าขีปนาวุธของพวกเขาไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับหัวรบนิวเคลียร์