เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศวันนี้ (10 มี.ค.) ว่าจะเทขายทรัพย์สินทั้งหมดที่บริษัทเกาหลีใต้ทิ้งเอาไว้ที่นิคมอุตสาหกรรมร่วมแกซอง หลังโซลมีคำสั่งปิดโรงงานเมื่อเดือน ก.พ. เพื่อลงโทษที่โสมแดงทดสอบนิวเคลียร์และยิงจรวดพิสัยไกล
“ทรัพย์สินที่บริษัทเกาหลีใต้และสถาบันที่เกี่ยวข้องทิ้งไว้ที่นี่ จะถูกขายทั้งหมด” สำนักข่าวเคซีเอ็นเออ้างถ้อยแถลงจากคณะกรรมการเพื่อการรวบรวมชาติอย่างสันติของเกาหลีเหนือ
โครงการที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ ได้แก่ รีสอร์ตตากอากาศบนภูเขาคุมกัง และเขตนิคมอุตสาหกรรมร่วมแกซอง
คณะกรรมการโสมแดงชี้ว่า นี่คือการตอบโต้ต่อมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวที่เกาหลีใต้ประกาศออกมาเมื่อวันอังคาร (8)
“นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เราขอยกเลิกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการแลกเปลี่ยนทุกฉบับระหว่างเกาหลีเหนือและใต้” คณะกรรมการระบุ
รัฐบาลโซลสั่งระงับการผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมแกซองตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. โดยระบุว่า ไม่ต้องการให้เม็ดเงินที่เกาหลีใต้ลงทุนในเขตอุตสาหกรรมแห่งนี้ถูกดึงไปอุดหนุนโครงการพัฒนาขีปนาวุธ และอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ท่าทีแข็งกร้าวของโซลทำให้เปียงยางขับไล่ชาวเกาหลีใต้ทั้งหมดออกจากเขตอุตสาหกรรมร่วม ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากพรมแดนประมาณ 10 กิโลเมตร และยังอายัดทรัพย์สินของบริษัทเกาหลีใต้ด้วย
สมาคมซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทโสมขาวกว่า 120 แห่งที่มีโรงงานอยู่ในแกซอง ประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกทิ้งเอาไว้ไม่ต่ำกว่า 820,000 ล้านวอน (ราว 24,000 ล้านบาท)
เขตอุตสาหกรรมร่วมแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2004 ตามนโยบาย “ซันไชน์” ของอดีตประธานาธิบดี คิม แด-จุง แห่งเกาหลีใต้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรองดอง และความร่วมมือข้ามพรมแดน คำสั่งปิดแบบไม่มีกำหนดเช่นนี้จึงโหมกระพือความตึงเครียด และสร้างความเสียหายทางธุรกิจไม่น้อยต่อบริษัทเกาหลีใต้ซึ่งใช้ที่นี่เป็นฐานการผลิต
บริษัทเกาหลีใต้ราว 124 แห่งได้เข้าไปยังแกซองเพื่อตั้งโรงงานผลิตสินค้าจำพวกเสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ราคาถูก ทำให้มีสกุลเงินแข็งไหลเข้าสู่รัฐคอมมิวนิสต์โดดเดี่ยวแห่งนี้ และกระตุ้นการจ้างแรงงานโสมแดงถึง 53,000 ตำแหน่ง
ด้านรีสอร์ตบนภูเขาคุมกังก็เป็นอีกหนึ่งโครงการความร่วมมือที่สำคัญระหว่างเปียงยางและโซล โดยในช่วงปี 1998-2008 มีชาวเกาหลีใต้ข้ามแดนไปพักผ่อนตากอากาศที่รีสอร์ตแห่งนี้หลายหมื่นคน
เกาหลีใต้สั่งห้ามพลเมืองข้ามแดนไปยังภูเขาคุมกังตั้งแต่ปี 2008 หลังเกิดเหตุหญิงชาวเกาหลีใต้หลงเข้าไปในเขตหวงห้ามจนถูกทหารโสมแดงยิงเสียชีวิต ขณะที่เปียงยางตอบโต้ด้วยการยกเลิกข้อตกลงกับบริษัท ฮุนได อาซาน ซึ่งเป็นเจ้าของรีสอร์ต และยึดทรัพย์สินของฮุนได-อาซาน ที่นั่นทั้งหมด