รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี พัค กึนฮเย แห่งเกาหลีใต้ให้คำมั่นในวันนี้ (16) ว่า โซลจะใช้มาตรการที่ “รุนแรง” ต่อเกาหลีเหนือเพิ่มเติมอีก หลังจากที่ระงับการดำเนินงานที่นิคมอุตสาหกรรมร่วมแห่งหนึ่งเพื่อเป็นการลงโทษเกาหลีเหนือสำหรับการยิงจรวดพิสัยไกลและการทดสอบนิวเคลียร์เมื่อเร็วๆ นี้
การกระทำเมื่อไม่นานมานี้ของเกาหลีเหนือและการขู่ว่าจะทำการ “ยั่วยุอย่างรุนแรง” อีกครั้ง แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้มีความสนใจเรื่องสันติภาพเลย พัคกล่าวในการปราศรัยต่อรัฐสภา
“การปิดนิคมอุตสาหกรรมแกซองเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของมาตรการอีกหลายๆ มาตรการที่เราจะใช้ร่วมกับประชาคมโลก” เธอกล่าว
“รัฐบาลจะใช้มาตรการที่รุนแรงและมีประสิทธิผลเพื่อให้เกาหลีเหนือเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการพัฒนานิวเคลียร์จะไม่ช่วยให้พวกเขารอดแต่จะยิ่งทำให้ระบอบของพวกเขาล่มสลายเร็วขึ้นแทน” เธอกล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกาหลีใต้ได้ระงับการดำเนินงานที่นิคมอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งใช้งานร่วมกับเกาหลีเหนือมากว่าสิบปีและเป็นแหล่งที่มาหลักของเงินแข็งสำหรับประเทศยากแค้นแห่งนี้ เพื่อเป็นการลงโทษเปียงยางสำหรับการปล่อยจรวดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์
โซลและสหรัฐฯ กล่าวว่า การปล่อยจรวดดังกล่าวความจริงแล้วเป็นการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลที่ละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เกาหลีเหนือระบุว่าการปล่อยจรวดครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิทยาศาสตร์ที่มีจุดประสงค์เพื่อปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศ
วอชิงตันและโซลกำลังต้องการแรงสนับสนุนจากจีน พันธมิตรหลักของเปียงยาง เพื่อให้มีมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้นต่อเกาหลีเหนือจากกรณีการปล่อยจรวดและการทดสอบนิวเคลียร์เมื่อเดือนมกราคม
เกาหลีใต้อยู่ในช่วงที่มีความตื่นตัวมากขึ้นกับการกระทำสุดขั้วแบบใดก็ตามของเปียงยาง พัคกล่าว พร้อมร้องขอแรงสนับสนุนจากทั้งสองฝ่ายทางการเมือง เธอยังเตือนให้หลีกเลี่ยงการใช้ความตึงเครียดนี้เพื่อเป้าหมายทางการเมือง “ซึ่งเป็นสิ่งที่เกาหลีเหนือต้องการจะเห็น”