เอเอฟพี - เกาหลีใต้เปิดเผยมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือชุดใหม่ในวันนี้ (8) ซึ่งรวมถึงการเรียกร้องให้พลเมืองบอยคอตร้านอาหารเกาหลีเหนือในต่างแดน และได้ขึ้นบัญชีดำบุคคลและองค์กรในและนอกเกาหลีเหนือมากมาย รวมถึงบริษัทสายการเดินเรือของไทยแห่งหนึ่ง
มาตรการชุดใหม่นี้ที่บังคับใช้จากกรณีทดสอบนิวเคลียร์และการปล่อยจรวดพิสัยไกลของเกาหลีเหนือเมื่อเร็วๆ นี้ขึ้นบัญชีดำบุคคลและองค์กรในเกาหลีเหนือมากมาย รวมทั้งแบนไม่ให้เรือที่เคยเทียบท่าเกาหลีเหนือผ่านน่านน้ำเกาหลีใต้
มาตรการเหล่านี้มีออกมาภายหลังมาตรการคว่ำบาตรที่ถูกรับรองโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และน่าจะนำมาซึ่งการตอบสนองอย่างเกรี้ยวกราดจากเปียงยาง
โซลใช้มาตรการอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยการสั่งระงับการดำเนินงานที่นิคมอุตสาหกรรมร่วมแกซอง และมาตรการที่ออกในวันนี้ (8) มีเป้าหมายเพื่อทำให้การคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ “รุนแรงยิ่งขึ้น” รัฐบาลระบุ
ประกาศรัฐบาลฉบับนี้ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อกีดกันไม่ให้เงินสดต่างประเทศไหลเข้าสู่มือรัฐบาลเปียงยางยังรวมถึงการเรียกร้องให้ชาวเกาหลีเหนืองดอุดหนุนธุรกิจของเกาหลีเหนือในต่างแดนด้วย
“เนื่องจากธุรกิจของเกาหลีเหนืออย่างเช่นร้านอาหารคือหนึ่งในช่องทางในการได้มาซึ่งเงินตราต่างประเทศของเกาหลีเหนือ เราจึงร้องขอให้สาธารณชนงดเว้นจากการใช้บริการธุรกิจเหล่านี้” ลี ซุค-จุน หัวหน้าสำนักงานเพื่อการประสานงานนโยบายรัฐบาล กล่าว
รัฐบาลเกาหลีใต้ประเมินว่า ในแต่ละปีเปียงยางได้รับเงินประมาณ 10 ล้านดอลลาร์จากร้านอาหารราว 130 แห่งใน 12 ประเทศ
โซลขึ้นบัญชีดำบุคคล 40 คน และกลุ่ม 30 กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของโสมแดง รวมถึงบุคคล 2 คน และกลุ่ม 6 กลุ่มจากประเทศที่สาม และแบนไม่ให้พวกเขาทำธุรกิจใดๆ ก็ตามกับชาวเกาหลีใต้
นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังขึ้นบัญชีดำบริษัทสายการเดินเรือ มาริเนอร์ส ชิปปิ้ง แอนด์ เทรดดิ้ง ของไทย และบริษัท โรยัล ทีม คอร์เปอร์เรชัน ของไต้หวันด้วย
การสั่งแบนเรือต่างชาติที่เคยเทียบท่าในเกาหลีเหนือดูเหมือนจะนำจุดจบมาสู่โครงการโครงสร้างพื้นฐานสามฝ่ายที่มีจุดประสงค์เพื่อขนส่งถ่านหินรัสเซียไปยังท่าเรือเกาหลีใต้ผ่านเมืองท่าไรจินของโสมแดงและเมืองชายแดนคาซันของรัสเซีย
โครงการที่มีชื่อว่าไรจิน-คาซันนี้ถูกมองในฐานะส่วนสำคัญในแผนการของประธานาธิบดี พัค กึนฮเย ที่จะรวมทางรถไฟของเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือเข้าด้วยกันเพื่อเชื่อมต่อสองประเทศกับยุโรป
มาตรการชุดใหม่นี้เสริมทับมาตรการที่มีอยู่เดิมที่เกาหลีใต้บังคับใช้เมื่อปี 2010 หลังจากกล่าวโทษเกาหลีเหนือว่าจมหนึ่งในเรือคอร์เวตของกองทัพเรือโสมขาว