เอพี - พนักงานปาเลสไตน์จำนวนหลายร้อยคนต้องออกจากงานที่เคยทำในโรงงานเครื่องผลิตโซดาสตรีมชื่อดัง ของบริษัท โซดาสตรีม อินเตอร์เนชันแนล ลิมิตเต็ด (SodaStream International Ltd.) ที่ตั้งในเขตเวสต์แบงก์ในส่วนของอาณานิคมตั้งตัวเองอิสราเอลที่มีชาวยิวเป็นเจ้าของ หลังจากโรงงานแห่งนี้ถูก BDS กลุ่มเคลื่อนไหวนานาชาติร่วมกดดันบอยคอตเพื่อให้โรงงานโซดาสตรีมย้ายกลับเข้าไปยังเทลอาวีฟ
เอพีรายงานเมื่อวานนี้ (29 ก.พ) ว่า แดเนียล เบิร์นบอม (Daniel Birnbaum) ประธานบริหารบริษัท โซดาสตรีม อินเตอร์เนชันแนล ลิมิเต็ด (Soda Stream International Ltd.) ได้ออกแถลงการณ์ด่วนในวันจันทร์ (29 ก.พ.) ว่า พนักงานชาวปาเลสไตน์กลุ่มสุดท้ายจำนวน 74 ต้องถูกให้ออกจากงานในวันจันทร์ (29) ล่าสุด หลังจากที่คนกลุ่มนี้ถูกปฏิเสธการได้รับอนุญาตให้สามารถเข้าทำงานในอิสราเอลซึ่งเป็นที่ตั้งใหม่ของโรงงานโซดาสตรีม
“เรามอบโอกาสให้กับพวกเขาได้มีงานทำ” เบิร์นบอมแถลงผ่านสื่อโทรทัศน์ช่อง 2 ของอิสราเอล และกล่าวต่อว่า ชาวปาเลสไตน์เหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของการบอยคอตครั้งมโหฬาร แต่อย่างไรก็ตาม ซีอีโอโซดาสตรีมได้วิจารณ์รัฐบาลอิสราเอลที่ไม่ยอมออกใบอนุญาตการทำงานให้กับอดีตพนักงานชาวปาเลสไตน์เหล่านี้
ทั้งนี้ เครื่องผลิตโซดาสตรีมเป็นอุปกรณ์สำหรับทำเครื่องดื่มโซดาภายในครัวเรือนที่ผู้ใช้สามารถเลือกเองได้ว่าต้องการทำให้เครื่องดื่มโซดาของตนนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากน้อยเพียงใดโดยที่ยังมีรสชาติโซดาผสมอยู่
เอพีรายงานว่า ยอดรวมทั้งหมดของชาวปาเลสไตน์ที่ต้องตกงานมีสูงถึง 500 คนหลังจากที่โรงงานแห่งนี้ได้ย้ายออกไปในปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการถูกกดดันอย่างหนักจากกลุ่ม BDS ที่มีตัวย่อมาจาก boycott divestment และ sanctions หรือบอยคอต เลิกกิจการ และคว่ำบาตร ที่มีเป้าหมายเพื่อที่จะโดดเดี่ยวอิสราเอล และทำให้ปาเลสไตน์ได้รับอิสรภาพ กลุ่ม BDS เกิดจากความร่วมมือการล็อบบี้ของกลุ่มต่างๆ เป็นต้นว่า ผู้เชี่ยวชาญ ศิลปิน และอื่นๆ
โดยมีรายงานว่า กลุ่ม BDS นี้ได้เห็นโมเดลต้นแบบการบอยคอตการแบ่งโซนสีผิวในแอฟริกาใต้
เอพีรายงานเพิ่มเติมต่อว่า มีชาวปาเลสไตน์เป็นจำนวนมากต้องข้ามเขตเข้าไปทำงานในดินแดนที่อิสราเอลประกาศเข้าครอบครองในเขตเวสต์แบงก์เพราะคนเหล่านั้นไม่สามารถหางานได้ในฝั่งของปาเลสไตน์
ชาวปาเลสไตน์ยังให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจในฉนวนกาซาต้องอ่อนแอลงเพราะอิสราเอล
ด้าน มาห์มูด นาวาจา (Mahmoud Nawajaa) โคออโดเนเตอร์ของกลุ่ม BDS ประจำเมืองรามาลลาห์ ได้ให้ความเห็นต่อการตกงานของพนักงานโรงงานโซดาสตรีมที่เป็นชาวปาเลสไตน์ว่า “นี่เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนที่ต้องจ่ายในกระบวนการยุติการเข้ายึดครองของอิสราเอล” และนอกจากนี้นาวาจายังเรียบกร้องให้รัฐบาลปาเลสไตน์สร้างงานในฉนวนกาซาให้กับชาวปาเลสไตน์มากขึ้น