สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้พิพากษาฝรั่งเศสผู้ทำหน้าที่ไต่สวนข้อกล่าวหาคดีวางยาพิษสังหารนายยัสเซอร์ อาราฟัต อดีตผู้นำปาเลสไตน์ได้สั่งปิดคดีโดยไม่มีการตั้งข้อหากับผู้ใด ขณะที่ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากยังเชื่อว่าเขาถูกลอบสังหารโดยอิสราเอล
"หลังสิ้นสุดการสอบสวน ... ไม่มีข้อมูลใดบ่งชี้ได้ว่านายอาราฟัตถูกสังหารด้วยสารพิษโพโลเนียม-210" ทั้งนี้จากแถลงการณ์ของอัยการจากศาลในเมือง Nanterre ใกล้กับกรุงปารีส
นายอาราฟัตเสียชีวิตในวัย 75 ปี ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใกล้กรุงปารีสเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2004 หลังมีอาการปวดท้องขณะอยู่ในที่ทำการใหญ่ในเมืองรามัลเลาะห์ เขตเวสต์แบงก์ ซึ่งนางซูฮา ภรรยาม่ายของอาราฟัตยืนยันว่าสามีของเธอถูกสังหารด้วยสารกัมมันตรังสี โพโลเนียม-210 เนื่องจากพบรังสีตกค้างในร่างของเขามากกว่าปกติถึง 18 เท่า
แต่ศาลที่ทำการไต่สวนคดีมีคำสั่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (2 สิงหาคม) ว่า "ไม่มีหลักฐานเป็นที่น่าเชื่อถือว่า มีการแทรกแซงจากภายนอกในการพยายามพรากชีวิตของเขา"
นางซูฮาได้ยื่นฟ้องคดีฆาตกรรมในปี 2012 ที่ศาล Nanterre และในปีเดียวกันสุสานในเมืองรามัลเลาะห์ของนายอาราฟัตถูกเปิดเป็นระยะเวลาสั้นๆเพื่อให้ทีมสืบสวนจากฝรั่งเศส,สวิตเซอร์แลนด์และรัสเซียเข้าไปรวบรวมหลักฐานทั้งสิ้นราว60 ตัวอย่าง
ห้องทดลองแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ได้ทำการทดสอบตัวอย่างทางชีวภาพที่ได้มาจากสิ่งของของนายอาราฟัตซึ่งตกทอดมาถึงภรรยาของเขาหลังการเสียชีวิตซึ่งผู้เชี่ยวชาญพบว่ามีสารโพโลเนียมในตัวอย่างที่ทำการตรวจสอบอยู่ในระดับที่สูงผิดปกติแต่ปฏิเสธที่จะระบุว่าสารดังกล่าวเป็นพิษที่ทำให้เขาถึงแก่ความตาย
ด้านทนายความของนางซูฮาได้กล่าวหาว่ากระบวนการสอบสวนเป็นไปโดยมี"อคติอย่างสุดขั้ว"และกล่าวหาศาลว่าเร่งปิดคดีเร็วเกินไป
"ในเมื่อไม่มีการสอบสวนย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะสรุปว่าไม่มีหลักฐานพอที่จะสนับสนุน" ทนายนางซูฮากล่าว พร้อมเรียกร้องให้นำตัวผู้เชี่ยวชาญมาให้ปากคำมากขึ้น
ขณะที่คณะกรรมการสอบสวนของรัฐบาลปาเลสไตน์ได้ออกมาประกาศไม่ยอมรับผลสรุปของศาลฝรั่งเศสและยืนยันจะทำการสอบสวนต่อไปจนกว่าจะรู้ว่านายอาราฟัตเสียชีวิตได้อย่างไร
"หลังสิ้นสุดการสอบสวน ... ไม่มีข้อมูลใดบ่งชี้ได้ว่านายอาราฟัตถูกสังหารด้วยสารพิษโพโลเนียม-210" ทั้งนี้จากแถลงการณ์ของอัยการจากศาลในเมือง Nanterre ใกล้กับกรุงปารีส
นายอาราฟัตเสียชีวิตในวัย 75 ปี ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใกล้กรุงปารีสเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2004 หลังมีอาการปวดท้องขณะอยู่ในที่ทำการใหญ่ในเมืองรามัลเลาะห์ เขตเวสต์แบงก์ ซึ่งนางซูฮา ภรรยาม่ายของอาราฟัตยืนยันว่าสามีของเธอถูกสังหารด้วยสารกัมมันตรังสี โพโลเนียม-210 เนื่องจากพบรังสีตกค้างในร่างของเขามากกว่าปกติถึง 18 เท่า
แต่ศาลที่ทำการไต่สวนคดีมีคำสั่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (2 สิงหาคม) ว่า "ไม่มีหลักฐานเป็นที่น่าเชื่อถือว่า มีการแทรกแซงจากภายนอกในการพยายามพรากชีวิตของเขา"
นางซูฮาได้ยื่นฟ้องคดีฆาตกรรมในปี 2012 ที่ศาล Nanterre และในปีเดียวกันสุสานในเมืองรามัลเลาะห์ของนายอาราฟัตถูกเปิดเป็นระยะเวลาสั้นๆเพื่อให้ทีมสืบสวนจากฝรั่งเศส,สวิตเซอร์แลนด์และรัสเซียเข้าไปรวบรวมหลักฐานทั้งสิ้นราว60 ตัวอย่าง
ห้องทดลองแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ได้ทำการทดสอบตัวอย่างทางชีวภาพที่ได้มาจากสิ่งของของนายอาราฟัตซึ่งตกทอดมาถึงภรรยาของเขาหลังการเสียชีวิตซึ่งผู้เชี่ยวชาญพบว่ามีสารโพโลเนียมในตัวอย่างที่ทำการตรวจสอบอยู่ในระดับที่สูงผิดปกติแต่ปฏิเสธที่จะระบุว่าสารดังกล่าวเป็นพิษที่ทำให้เขาถึงแก่ความตาย
ด้านทนายความของนางซูฮาได้กล่าวหาว่ากระบวนการสอบสวนเป็นไปโดยมี"อคติอย่างสุดขั้ว"และกล่าวหาศาลว่าเร่งปิดคดีเร็วเกินไป
"ในเมื่อไม่มีการสอบสวนย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะสรุปว่าไม่มีหลักฐานพอที่จะสนับสนุน" ทนายนางซูฮากล่าว พร้อมเรียกร้องให้นำตัวผู้เชี่ยวชาญมาให้ปากคำมากขึ้น
ขณะที่คณะกรรมการสอบสวนของรัฐบาลปาเลสไตน์ได้ออกมาประกาศไม่ยอมรับผลสรุปของศาลฝรั่งเศสและยืนยันจะทำการสอบสวนต่อไปจนกว่าจะรู้ว่านายอาราฟัตเสียชีวิตได้อย่างไร