เอเอฟพี - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 รายและอีกมากกว่า 20,000 คนต้องพลัดถิ่นฐานในช่วง 1 สัปดาห์แห่งการปะทะกันระหว่างนักรบอิสลามิสต์กับกองกำลังด้านความมั่นคงทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ เจ้าหน้าที่เปิดเผยในวันศุกร์(26ก.พ.)
กองทัพฟิลิปปินส์ยืนยันว่ามีทหาร 3 นายและนักรบ 3 คนเสียชีวิตในเหตุปะทะระหว่างกองกำลังด้านความมั่นคงกับเหล่าสมุนของกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ระดับอาเซียนกลุ่มหนึ่งที่แกนนำล่วงลับไปแล้ว
"มีการโจมตีและโจมตีตอบโต้ ซุ่มยิงและซุ่มยิงตอบโต้และยิงปืนใหญ่" พันเอกโนเอล เดโตยาโต บอกกับเอเอฟพี พร้อมเผยว่าเหตุสู้รบเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันเสาร์(20ก.พ.) หลังนักรบลงมือโจมตีป้อมทหารแห่งหนึ่ง
ทางกองทัพอ้างว่าสามารถบุกยึดฐานที่มั่นของกลุ่มนักรบ ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีตตั้งอยู่รอบนอกเมืองแห่งหนึ่งบนเกาะมินดาเนา ได้ในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(25ก.พ.) หลังใช้เฮลิคอปเตอร์ติดปืนกลโจมตี อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวท้องถิ่นรายงานจากที่เกิดเหตุว่ายังคงมีการปะทะกันตลอดทั้งวันศุกร์(26ก.พ.)
พันเอกโรเซลเลอร์ มูริลโล ผู้บัญชาการทหารซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว อ้างข้อมูลข่าวกรองเชื่อว่าน่าจะมีนักรบเสียชีวิตมากถึง 61 ราย แม้ตอนนี้เพิ่งเก็บกู้มาได้แค่ 3 ศพ แต่ยอมรับว่าไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนมายืนยันการเสียชีวิตของนักรบอีก 58 รายที่เหลือ
เหตุสู้รบเกิดขึ้นทั้งในและรอบๆเมืองบูติก ซึ่งประชากรเป็นชาวมุสลิมและล้อมรอบด้วยภูเขาป่าหนาทึบ ขณะที่ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นรายงานว่าบ้าน 2 ชั้นหลังหนึ่งพังเสียหายและอีกหลายหลังพรุนไปด้วยรูกระสุน
เจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือนเปิดเผยว่ามีประชาชนมากกว่า 20,000 คนต้องหลบหนีออกจากบ้านเรือน เข้าไปลี้ภัยในมัสยิด รวมถึงตามศูนย์อพยพต่างๆของรัฐบาล
พวกกบฏมุสลิมก่อความไม่สงบบนเกาะมินดาเนาและพื้นที่อื่นๆทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์มานานกว่า 4 ทศวรรษ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 120,000 ราย
เมื่อเร็วๆนี้ ความพยายามค้ำจุนข้อตกลงสันติภาพกับกลุ่มกบฏขนาดใหญ่ที่สุด แนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร(Moro Islamic Liberation Front) พังครืนลง หลังจากคองเกรสล้มเหลวผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งที่จะสร้างเขตปกครองตนเองมุสลิมบนเกาะมินดาเนา
การพังครืนของกระบวนการสันติภาพครั้งก่อนหน้านี้ในปี 2008 กระตุ้นให้เหล่าผู้บัญชาการสายแข็งของแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร ลงมือโจมตีเหล่าหมู่บ้านชาวคริสเตียนในมินดาเนา เข่นฆ่าผู้คนมากกว่า 400 ศพและทำให้ชาวบ้านต้องไร้ถิ่นฐาน 600,000 คน
เหตุปะทะในสัปดาห์นี้เกิดขึ้นในเขตหนึ่งที่มีแนวชายแดนติดกับป้อมปราการของแกนนำทรงอิทธิพลรายหนึ่งของแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร แต่เจ้าหน้าที่กองทัพเผยว่าแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโรไม่ได้มีส่วนร่วมในเหตุสู้รบครั้งนี้
กองทัพระบุว่ากลุ่มที่เกี่ยวข้องในเหตุปะทะคือสมุนของอุสตาซ ซานุสี สมาชิกของญะมาอะห์ อิสลามียะห์ (เจไอ) ซึ่งถูกสังหารในทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ปี 2012 ขณะที่เจไอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีเกาะบาหลีของอินโดนีเซียในปี 2002 คร่าชีวิต 202 ศพ และเป็นกลุ่มที่ปรากฎตัวอยู่ในทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์มาช้านาน
