เอเจนซีส์ - โทรศัพท์ไอโฟนรุ่น 5c ของซายเอ็ด ฟารุกวัย 28 ปี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแคลิฟอร์เนียมือกราดยิงซานเบอร์นาดิโน ถูกเปลี่ยนพาสโค้ด หลังจากตกอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ภายในไม่กี่ชั่วโมงแรกที่ถูกยึดเป็นของกลาง ผู้บริหารบริษัทแอปเปิล อิงก์ แถลงยืนยัน
ABC NEWS สื่อรายงานว่า ผู้บริหารบริษัทแอปเปิล อิงก์ แถลงยืนยันถึงสาเหตุที่ทำให้โทรศัพท์ไอโฟนรุ่น 5c ของ ซายเอ็ด ฟารุกนั้นถูกเปิดเข้าไปดูข้างในได้ เพราะพาสโค้ดนั้นถูกเปลี่ยนใหม่ภายในไม่กี่ชั่วโมงแรกหลังจากโทรศัพท์เครื่องนี้ถูกยึดเป็นของกลาง
แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังไม่ปรากฏชัดว่า พาสโค้ดถูกเปลี่ยนได้อย่างไร หรือโดยใคร แต่จากเอกสารของศาลสหรัฐฯ ระบุว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยอมรับว่าพาสโค้ดแอกเคานต์ iCloud ของฟารุกถูกรีเซต
โดยในเอกสารกล่าวว่า “เจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ (แผนกสาธารณสุขเคาน์ตีซานเบอร์นาดิโน) ได้พยายามที่จะเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ภายในโทรศัพท์เครื่องนี้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุกราดยิงเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. โดยใช้วิธีรีเซตพาสโค้ดจากระยะไกล แต่ทำให้เกิดความเป็นไปได้ในการลบการแบ็กอัพอัตโนมัติ
แต่ทว่าทางแอปเบิล อิงก์ สามารถจะกู้ข้อมูลจาก iCloud ที่ยังไม่ถูกการรีเซตพาสโค้ดเท่านั้น แถลงจากแอปเปิล อิงก์ และในแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “หากนำโทรศัพท์ไอโฟนเครื่องนี้ไปยังจุดที่มีสัญญาณไวไฟ เป็นต้นว่า บ้านของผู้ก่อเหตุ ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์ไอโฟนรุ่น 5c ของผู้ก่อเหตุ สามารถถูกแบ็กอัพไปที่ iCloud ได้
และสื่อสหรัฐฯ ยังชี้ว่า เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของเคาน์ตีเป็นผู้ทำการรีเซต แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผย แต่เจ้าหน้าที่สอบสวนรัฐบาลลางสหรัฐฯ เป็นผู้ค้นพบการรีเซ็ตครั้งนี้ หลังจากที่โทรศัพท์เครื่องนี้ถูกทำการรีเซตระยะไกลไปแล้ว ซึ่ง ABC NEWS รายงานว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิกของเคาน์ตีกระทำไปโดยพลการ ไม่ได้กระทำตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ แต่อย่างใด
ซึ่งผู้บริหารบริษัทแอปเปิล อิงก์ ยืนยันว่ามีการเปลี่ยนพาสโค๊ดในระหว่างโทรศัพท์เครื่องนี้ตกอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และการยืนยันนี้ตรงกับการยืนยันของแหล่งข่าวรัฐบาลกลางสหรัฐฯ
สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า การที่โทรศัพท์ไม่ได้เชื่อมต่อกับ iCloudเพื่อแบ็กอัพข้อมูลสำคัญทำให้ไม่สามารถได้ข้อมูลล่าสุดที่อาจเป็นประโยชน์กับรูปคดี โดยจากเอกสารของศาลสหรัฐฯ ระบุว่า โทรศัพท์ของฟารุกถูกแบ็กอัพครั้งสุดท้ายในวันที่ 19 ตุลาคม 2015 ซึ่งเป็นระยะเวลา 1 เดือนครึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุลงมือก่อการร้าย และด้วยจากเหตุผลนี้ทำให้ทาง FBI เชื่อว่าฟารุกได้ปิดฟีเจอร์การแบ็กอัพอัตโนมัติเพื่อปกปิดข้อมูลสำคัญ
โทรศัพท์ไอโฟน 5c ของฟารุกเครื่องนี้ถูกพบทิ้งไว้ที่รถยนต์เลกซัสสีดำของครอบครัว โดยที่ตัวเขาไม่ได้นำติดตัวไปด้วย
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ทิม คุก เจ้าพ่อแอปเปิล อิงก์ ได้ออกแถลงการณ์ในวันพุธ(17 ก.พ)ประกาศที่จะปฎิเสธทำตามคำสั่งของเชรี พิม (Sheri Pym) ศาลแขวงสหรัฐฯที่พิพากษาในวันอังคาร( 16 ก.พ)ล่าสุด ออกคำสั่งบังคับให้ให้บริษัท แอปเปิล อิงก์ ที่มีฐานในเมืองคูเพอร์ทิโน (Cupertino) รัฐแคลิฟอร์เนีย ทำการปลดล็อกโทรศัพท์มือถือไอโฟนรุ่น 5c ของซายเอ็ด ฟารุก ผู้ก่อการร้ายซานเบอร์นาดิโน เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนคดีกราดยิง 14 ศพวันที่ 2 ธ.ค 2015 หลังจากที่แอปเปิล อิงก์ปฎิเสธที่จะยอมช่วยเหลือด้วยความสมัครใจ
โดยคุกได้ให้เหตุผลว่า เป็นการทำลายระบบการป้องกันความปลอดภัย encryption ซึ่งเป็นการปกป้องความลับของผู้ใช้ และหากทางบริษัทยอมช่วยเหลือสหรัฐฯ อาจทำให้เครื่องมือพิเศษที่ถูกสร้างเพื่อเป็นประตูหลังอาจตกอยู่ในมือผู้ไม่ประสงค์ดี และจะทำให้โทรศัพท์ไอโฟนเป็นจำนวนมากตกเหยื่อการแฮ็กข้อมูลได้
ซึ่งทางแอปเปิล อิงก์ประกาศจะสู้ทางกฎหมายในเรื่องนี้กับรัฐกลางสหรัฐฯ ให้ถึงที่สุด