ตุรกีระบุ “ชาวเคิร์ด” เป็นผู้ก่อเหตุบึ้มใส่รถทหารกลางเมืองหลวง ตาย 28 เจ็บ 61

เอเจนซีส์ - ตุรกีแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (18 ก.พ.) ประณามกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีด้วยคาร์บอมบ์ ซึ่งเล่นงานขบวนรถทหารที่แล่นผ่านบริเวณกลางกรุงอังการาในวันพุธ (17) ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 28 ราย และบาดเจ็บอีก 61 คน

ระเบิดรถยนต์ที่มีอานุภาพรุนแรงมากได้ถูกจุดชนวนเล่นงานขบวนรถโดยสารที่ลำเลียงกำลังทหารรวม 5 คัน ขณะรถเหล่านี้จอดติดไฟแดงในบริเวณศูนย์กลางของเมืองหลวงตุรกีเมื่อค่ำวันพุธ เหตุคราวนี้ถือเป็นการโจมตีที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายครั้งล่าสุด ซึ่งบังเกิดขึ้นไม่ขาดสายในตุรกีนับตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้วเป็นต้นมา

ไม่เพียงเท่านั้น ในวันพฤหัสบดี (18) ยังมีทหารตุรกีอย่างน้อย 6 นายถูกสังหาร เมื่อขบวนลำเลียงของพวกเขาถูกโจมตีในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ โดยที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงหลายคนระบุว่าเชื่อว่าเป็นฝึมือของพวกกองกำลังอาวุธชาวเคิร์ด

ทั้งนายกรัฐมนตรี อาเหม็ด ดาวูโตกลู และประธานาธิบดี เรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ต่างออกมาแถลงว่า การโจมตีที่เมืองหลวงอังการาครั้งนี้เป็นฝีมือพวกนักปฏิบัติการของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (พีเคเค) ซึ่งถูกรัฐบาลประกาศเป็นองค์การนอกกฎหมาย โดยร่วมมือกับกองกำลังปกป้องประชาชนของประชาชนชาวเคิร์ดในซีเรีย (วายพีจี)

“เป็นที่เปิดเผยให้เห็นอย่างแน่นอนแล้วว่า การโจมตีคราวนี้เป็นฝีมือของพวกสมาชิกแห่งองค์การก่อการร้ายในตุรกี ซึ่งร่วมมือกับสมาชิกคนหนึ่งของวายพีจี ที่ลักลอบแทรกซึมเข้ามาจากซีเรีย” ดาวูโตกลูกล่าวกับผู้สื่อข่าว

เขาระบุด้วยว่า มือระเบิดเป็นคนสัญชาติซีเรียชื่อ ซาลีห์ เนคาร์

ขณะที่เออร์โดกันแถลงว่า หลังเกิดเหตุได้มีการออกกวาดจับผู้ต้องสงสัยทั่วตุรกีเอาไว้รวม 14 คน และยังน่าจะมีการจับกุมเพิ่มขึ้นอีก

ทางด้านหนังสือพิมพ์เยนี ซาฟัค ที่มีแนวทางเชียร์รัฐบาล รายงานทางเว็บไซต์วันพฤหัสบดี (18) โดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตนว่า ซาลีห์ เนคาร์ มือระเบิดชาวซีเรียผู้นี้เชื่อกันว่าเดินทางเข้าตุรกีพร้อมกับขบวนผู้ลี้ภัยจากซีเรีย เนื่องจากมีการเก็บลายนิ้วมือชายผู้นี้ขณะเดินทางผ่านแดน

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้สำทับว่า รถที่ใช้เป็นคาร์บอมบ์ เป็นรถที่เช่ามาจากเมืองอิซมีร์ ทางตะวันตกของตุรกี ตั้งแต่เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว

การโจมตีคราวนี้เกิดขึ้นในบริเวณกลางกรุงอังการา ใกล้ๆ กับอาคารกองบัญชาการกองทัพบก, รัฐสภา และสำนักงานของนายกรัฐมนตรี

ภาพที่ถูกนำออกเผยแพร่แสดงให้เห็นว่ามีรถอย่างน้อย 2 คันถูกระเบิดและไฟเผาผลาญเหลือแต่ซาก อีกทั้งเสียงระเบิดคราวนี้ก็ดังสนั่นกึกก้องจนได้ยินกันเป็นบริเวณกว้าง และทำให้ชาวบ้านชาวเมืองพากันตื่นตระหนก

ดาวูโตกลูบอกว่า ผู้ที่เสียชีวิต 27 รายเป็นทหาร ที่เหลืออีกรายหนึ่งเป็นพลเรือน โดยที่มีรายงานหลายกระแสระบุว่า พลเรือนผู้นี้เป็นหญิงชื่อ กุลเซน ยิลดิซ นักหนังสือพิมพ์ซึ่งชำนาญด้านข่าวการเกษตร

หลังเหตุโจมตีคราวนี้ผ่านไปหลายชั่วโมง กองทัพอากาศตุรกีได้ส่งเครื่องบินออกถล่มเป้าหมายต่างๆ ของพรรคพีเคเค ทางภาคเหนือของอิรัก โดยกองทัพระบุว่าเป็นการถล่มตามข่าวกรองที่รวบรวมมาได้ว่ามีนักรบหลายสิบคนตลอดจนพวกผู้นำระดับสูงของกบฏกลุ่มนี้อยู่ในบริเวณดังกล่าว

ดาวูโตกลูกล่าวว่า การถล่มโจมตีคราวนี้สังหารนักรบพีเคเคไป 70 คน

วายพีจี และพรรคสหภาพประชาธิปไตย (พีวายดี) ซึ่งเป็นปีกการเมืองของกลุ่มนี้ ได้ออกมาปฏิเสธเรื่อยมาว่า ไม่ได้เป็นสาขาของพีเคเค พร้อมกับโต้แย้งว่าพวกเขาไม่มีผลประโยชน์อะไรที่จะไปโจมตีเล่นงานตุรกี

ซาเลห์ มุสลิม หัวหน้าของพีวายดี บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีในวันพฤหัสบดี (18) ปฏิเสธว่าไม่ได้มีความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นต่อการก่อเหตุระเบิดที่อังการาคราวนี้ พร้อมยืนยันว่าไม่เคยได้ยินชื่อ “ซาลีห์ เนคาร์” ที่ทางการตุรกีเอ่ยอ้างมาก่อนเลย

ตุรกีนั้นประกาศว่าทั้งพีเคเค และวายพีจี ต่างเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้าย ตรงกันข้ามกับสหรัฐฯ ผู้เป็นพันธมิตรสนิทซึ่งเพียงจัดชั้นให้พีเคเคเท่านั้นเป็นผู้ก่อการร้าย แต่กลับทำงานร่วมมือใกล้ชิดกับวายพีจี โดยเห็นว่าเป็นกองกำลังอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการสู้รบกับกลุ่มนักรบญิฮัด “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ในซีเรีย

หลังเหตุการณ์ระเบิดที่อังการานี้ นายกรัฐมนตรี ดาวูโตกลูได้ยกเลิกแผนการเยือนบรัสเซลส์ในวันพฤหัสบดีเพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตผู้อพยพของยุโรป เช่นเดียวกับเออร์โดกันที่ยกเลิกการเดินทางไปเยือนอาร์เซอร์ไบจัน

ขณะที่ทั้งอเมริกา สหภาพยุโรป (อียู) และองค์การสนธิสัญญาปกป้องแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ต่างออกแถลงประณามผู้อยู่เบื้องหลังเหตุคาร์บอมบ์ในอังการา พร้อมประกาศยืนหยัดเคียงข้างตุรกีในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย

ในอีกด้านหนึ่ง ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ออฟ ฮิวแมน ไรตส์ กลุ่มติดตามสถานการณ์การสิทธิมนุษยชนในซีเรียที่มีฐานอยู่ในลอนดอน ระบุว่า มีสมาชิกกลุ่มกบฏ 500 คนได้ข้ามแดนตุรกีเข้าสู่ซีเรียเมื่อวันพุธ ภายใต้การควบคุมจัดการของทางการตุรกี เพื่อช่วยปราบปรามกองกำลังเคิร์ดรอบเมืองอะซาซ และกองทัพตุรกียังยิงปืนใหญ่โจมตีที่มั่นของนักรบเคิร์ดในซีเรียติดต่อกันเป็นวันที่ 5