รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดซึ่งเป็นสมาชิกองค์กรนอกกฎหมายอย่างพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) ลอบยิงขบวนรถของกองทัพตุรกีในวันอาทิตย์ (6 ก.ย.) เป็นเหตุให้มีทหารตุรกีเสียชีวิตไป 15 นาย ขณะที่ทางกองทัพปฏิบัติการตอบโต้กลับต่อการโจมตีที่เกิดขึ้นทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศในครั้งนี้แบบทันควันด้วยการโจมตีทางอากาศต่อที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธดังกล่าว
คำแถลงของกลุ่มติดอาวุธพีเคเคระบุว่า พวกตนทำการลอบโจมตีขบวนยานยนต์หุ้มเกราะของกองทัพตุรกีที่เขตยูคเซโกวาเป็นเหตุให้มีทหารตุรกีเสียชีวิตทันที 15 นาย และทางกลุ่มสามารถยึดอาวุธจากขบวนรถดังกล่าวได้เป็นจำนวนมาก
การโจมตีของกลุ่มพีเคเคล่าสุด ถือเป็นเหตุนองเลือดที่สุดที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ที่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัฐบาลตุรกีกับกลุ่มพีเคเคพังทลายลงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ด้านประธานาธิบดีเรเซ็ป ตายยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกีออกคำแถลงที่มีการเผยแพร่ทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศยืนยันข่าวสลดดังกล่าวว่าเกิดขึ้นที่เขตจังหวัดฮัคการี ใกล้กับพรมแดนอิหร่านและอิรัก พร้อมย้ำเตรียมนำยุทธศาสตร์ใหม่มาใช้ต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายที่สร้างความหวาดกลัวดังกล่าว
ขณะที่นายกรัฐมนตรีอาเหม็ต ดาวูโตกลูของตุรกีซึ่งอยู่ระหว่างการชมการแข่งขันฟุตบอลของทีมชาติตุรกีที่เมืองคอนยา ได้เดินทางออกจากสนามก่อนกำหนดเพื่อกลับไปยังกรุงอังการา หลังเกิดเหตุโจมตีดังกล่าว
ด้านแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของตุรกีเผยผ่านสำนักข่าวรอยเตอร์โดยระบุว่า เครื่องบินขับไล่ของกองทัพตุรกีได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศเพื่อแก้แค้นกลุ่มพีเคเค และสามารถสังหารสมาชิกกลุ่มชาวเคิร์ดสุดโต่งดังกล่าวได้อย่างน้อย 10 ราย
นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัฐบาลตุรกีกับกลุ่มพีเคเคถูกฉีกลงเมื่อเดือนกรกฎาคม มีรายงานว่า สมาชิกกองกำลังความมั่นคงของตุรกีถูกสังหารไปแล้วอย่างน้อย 70 นาย ขณะที่สมาชิกกลุ่มพีเคเคจำนวนหลายร้อยคนก็ถูกทางการตุรกีสังหาร
ทั้งนี้ กลุ่มพีเคเคได้จับอาวุธทำสงครามกองโจรต่อต้านรัฐบาลตุรกีมานานกว่า 30 ปี เพื่อเรียกร้องอำนาจที่มากขึ้นในการปกครองตนเองของชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ด แต่การมีจุดยืนที่เน้นการสร้างความรุนแรงแบบไม่เลือกหน้าของทางกลุ่มส่งผลให้กลุ่มพีเคเคถูกขึ้นบัญชีดำเป็นองค์กรก่อการร้ายทั้งจากสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา