รอยเตอร์ - รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาแถลงข่าวตอบโต้รายงานของสื่อต่างประเทศวันนี้ (17 ก.พ.) ที่ว่า จีนได้ส่งขีปนาวุธล้ำสมัยชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศไปยังเกาะพิพาทในทะเลจีนใต้ โดยยืนยันสิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎหมายระหว่างประเทศ ขณะที่กระทรวงกลาโหมจีนชี้ว่าระบบขีปนาวุธดังกล่าวถูกติดตั้งไว้นานแล้ว และตำหนิสื่อต่างประเทศบางสำนักที่พยายามทำเรื่องนี้ให้ดูใหญ่โตเกินจริง
หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ออกมาปฏิเสธรายงานซึ่งสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์นำเสนอเป็นเจ้าแรก พร้อมเรียกร้องให้สื่อตะวันตกหันมาสนใจประภาคารหลายแห่งที่จีนกำลังสร้างขึ้นเพื่อช่วยยกระดับความปลอดภัยในการเดินเรือจะดีกว่า
“ในส่วนของระบบป้องกันตนเองอย่างจำกัด ซึ่งจีนจำเป็นต้องสร้างไว้บนหมู่เกาะและแนวปะการังที่เราส่งบุคลากรเข้าไปประจำการ ถือเป็นสิทธิในการป้องกันตนเองที่รัฐบาลจีนสามารถกระทำได้ตามกฎหมายระหว่างประเทศ จึงไม่ควรมีการตั้งคำถามในเรื่องนี้” หวังระบุ
ด้าน หง เล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ก็ให้สัมภาษณ์ในทำนองเดียวกันว่า หากจีนจะนำระบบขีปนาวุธไปติดตั้งบนดินแดนของตนเองก็สามารถกระทำได้โดยชอบธรรม
หง ระบุว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สิ่งใดก็ตามที่จีนนำไปติดตั้งย่อมมีวัตถุประสงค์เพื่อการป้องกันประเทศ ไม่ใช่การขยายอิทธิพลทางทหาร
กระทรวงกลาโหมจีนก็ได้ส่งคำแถลงถึงรอยเตอร์ว่า ระบบป้องกันขีปนาวุธบน “หมู่เกาะและแนวปะการังที่ถูกอ้างถึง” นั้น ติดตั้งเอาไว้นานหลายปีแล้ว และข่าวที่ปรากฏในสื่อต่างประเทศวันนี้ (17) ก็เป็นแค่การใส่สีตีไข่ให้ฟังดูใหญ่โตเกินจริง
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และไต้หวัน ยืนยันกับรอยเตอร์และสื่อหลายสำนักวันนี้ (17) ว่า จีนได้ส่งระบบขีปนาวุธไปยังเกาะวู้ดดี้ (Woody Island) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะพาราเซลในทะเลจีนใต้ที่จีนควบคุมมานานถึง 40 ปี
จูลี บิชอป รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียซึ่งอยู่ระหว่างเยือนกรุงปักกิ่ง ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมกับ หวัง โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอดทนอดกลั้นและแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลออสเตรเลียไม่เข้าข้างฝ่ายใดทั้งสิ้นในเรื่องปัญหาทะเลจีนใต้
รัฐบาลจีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งทรัพยากรทางทะเลและแหล่งพลังงานขนาดใหญ่แล้ว ยังเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญของโลก ซึ่งแต่ละปีจะมีสินค้าที่ถูกขนส่งทางเรือผ่านน่านน้ำแถบนี้เป็นมูลค่าถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจีนได้เข้าไปสร้างทางวิ่งเครื่องบินและสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ บนเกาะเทียม เพื่อยืนยันถึงความเป็นเจ้าของที่ดินเหล่านี้