เอเอฟพี - เยลเลนเตือนเศรษฐกิจอเมริกากำลังเผชิญความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลกวูบและตลาดการเงินตก ตลอดจนถึงนโยบายเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนที่ไร้ความแน่นอนของจีนบ่งชี้ว่าเฟดอาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้าออกไปก่อน
ระหว่างการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการทางการเงินสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธ (10) เจนเน็ต เยลเลน ประธานผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่า สถานะทางการเงินในอเมริกาล่าสุดเอื้ออำนวยต่อการเติบโตน้อยลง ดังจะเห็นได้จากราคาหุ้นโดยรวมที่ตกลง ต้นทุนการกู้ยืมขยับขึ้นสำหรับผู้กู้ที่มีความเสี่ยงสูง และการอ่อนค่าลงของดอลลาร์ ซึ่งหากสถานการณ์เหล่านี้คงอยู่ต่อไปอาจกดดันแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน
เยลเลนยังวิจารณ์ว่า นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนที่สับสนของจีนสร้างความปั่นป่วนในตลาดโลก ซึ่งรวมถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และทั้งหมดนี้คุกคามต่อการขยายตัวของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี นายใหญ่เฟดไม่ได้คาดการณ์เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย และยืนตามแถลงการณ์เดิมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มเติบโตปานกลางตลอดปีนี้
เยลเลนสำทับว่า แม้มีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทว่า การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นและแนวโน้มการขึ้นค่าแรงจะสนับสนุนการเติบโตของรายได้ที่แท้จริงและการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งเท่ากับเป็นการสนับสนุนแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเฟด
คำแถลงของเยลเลนสร้างความผิดหวังให้ผู้เล่นจำนวนมากในตลาดที่คาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะชะลอเป้าหมายในการขึ้นดอกเบี้ย 4 รอบ รอบละ 0.25% ในปีนี้
ในทางตรงข้าม เยลเลนยังดับความหวังของบางคน โดยกล่าวว่า ไม่คาดว่าเอฟโอเอ็มซีจะมีความจำเป็นในการลดดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ โดยอ้างอิงตลาดแรงงานที่ยังคงขยายตัวดี
ประธานผู้ว่าการเฟดยังคงเชื่อมั่นว่า อัตราว่างงานจะลดลงต่อเนื่องจาก 4.9% ในขณะนี้ และอัตราเงินเฟ้อที่ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำมากจากปัจจัยต่างๆ เช่น ราคาน้ำมันทรุด จะขยับขึ้นไปถึงเป้าหมาย 2% ในที่สุด
กระนั้น นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้อยคำของเยลเลนดูมีความมั่นใจน้อยลงกว่าตอนที่ประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 9 ปีเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา
เยลเลนยังแถลงต่อคณะกรรมาธิการฯ ว่า ความปั่นป่วนในตลาดต่างประเทศถือเป็นปัจจัยคุกคามที่อาจฉุดรั้งการเติบโตของอเมริกา ยกตัวอย่างเช่น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ดิ่งลงรุนแรง ที่เธอบอกว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนของแดนมังกรนั้น กำลังคุกคามให้เกิดภาวะวิกฤตทางการเงินในประเทศและบริษัทที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากหากความเสี่ยงขาลงเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ความต้องการสินค้าส่งออกอเมริกันอาจวูบลง และสถานการณ์ในตลาดการเงินอาจตึงเครียดยิ่งขึ้น
กัส โฟเชอร์ นักวิเคราะห์อาวุโสของพีเอ็นซี แบงก์ ตีความการเน้นย้ำความเสี่ยงขาลงต่อเศรษฐกิจของเยลเลนว่า เป็นการลดแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า
เอียน เชปเฟิร์ดสัน จากแพนทีออน มาโครอีโคโนมิกส์ ขานรับว่า นัยอันคลุมเครือของเยลเลนเปิดช่องให้เอฟโอเอ็มซีรอดูข้อมูลเศรษฐกิจอเมริกาและเศรษฐกิจโลกในเดือนหน้าก่อนที่จะตัดสินใจนโยบายดอกเบี้ย
คำแถลงของเยลเลนฉุดดอลลาร์อ่อนลงทันตา เริ่มจากที่นิวยอร์กวันพุธที่เทรดที่ 113.40 เยน จาก 115.14 เยนในวันก่อนหน้า และอ่อนลงต่อเนื่องในตลาดเอเชียวันพฤหัสฯ (11) อยู่ที่ 112.58 เยน ซึ่งถือเป็นสถิติต่ำสุดนับจากเดือนพฤศจิกายน 2014 ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นสร้างความประหลาดใจด้วยการขยายโครงการรับซื้อพันธบัตรขนาดใหญ่ ซึ่งหมายถึงการพิมพ์ธนบัตรเพิ่มเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนั้น ดอลลาร์ยังอ่อนลงเมื่อเทียบยูโร โดยอยู่ที่ 1.1291 ดอลลาร์ต่อยูโร จาก 1.1286 ดอลลาร์