xs
xsm
sm
md
lg

โสมแดงยิงจรวด-ทำมะกันได้ทีสะสมอาวุธ ปั่นสัมพันธ์ “วอชิงตัน-ปักกิ่ง” ร้าวลึก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวทางการเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคาร (9 ก.พ.) โดยระบุว่าถ่ายไว้ในวันจันทร์ (8) แสดงให้เห็นการเฉลิมฉลองในกรุงเปียงยาง เพื่อแสดงความยินดีที่เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการยิงจรวดปล่อยดาวเทียมเมื่อวันอาทิตย์ (7)
เอเจนซีส์ - ผู้เชี่ยวชาญชี้การยิงจรวดครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนืออาจนำไปสู่การติดตั้งยกระดับระบบป้องกันขีปนาวุธของอเมริกาในเอเชีย และผลพวงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือเกิดการปีนเกลียวกันหนักข้อขึ้นระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง กระทั่งอาจรวมถึงปักกิ่งกับโซล แต่ที่แน่ๆ ก็คือการยั่วยุไม่หยุดของเปียงยางกำลังทำให้สหรัฐฯ-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น กระชับความร่วมมือใกล้ชิดขึ้นทั้งด้านการทูตและการทหาร โดยจะมีการหารือระหว่างผู้บัญชาการกองทัพของสามชาติในสัปดาห์นี้

เกาหลีเหนืออ้างว่าตนยิงจรวดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 ก.พ.) ก็เพื่อปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศ และก็ประสบความสำเร็จเป็นอันดี ทว่า อเมริกาและพันธมิตรมองว่านั่นเป็นเพียงข้ออ้างในการพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธพิสัยไกลที่อาจติดหัวรบนิวเคลียร์และยิงไกลไปถึงแดนอินทรี

ถัดจากนั้นอเมริกาและเกาหลีใต้ออกมาเปิดเผยแทบจะทันทีว่า จะเริ่มหารืออย่างเป็นทางการเรื่องการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธระดับบรรยากาศชั้นสูง (Terminal High Altitude Area Defense หรือ THAAD) บนคาบสมุทรเกาหลี “โดยเร็วที่สุด”

ก่อนหน้านี้โซลลังเลที่จะผลักดันความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ เนื่องจากกังวลว่าอาจทำให้ปักกิ่ง ซึ่งเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของตนบังเกิดความขุ่นเคือง

และก็เป็นเช่นนั้นจริง กระทรวงการต่างประเทศจีนออกคำแถลงว่า ประเทศใดๆ ก็ตามไม่ควรปกป้องความมั่นคงของตนโดยการบ่อนทำลายผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของประเทศอื่น

ส่วนบทบรรณาธิการของโกลบัล ไทมส์ หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ทรงอิทธิพลในเครือของเหรินหมินรึเป้า หนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน กระทุ้งซ้ำว่า การให้คำมั่นของอเมริกาและเกาหลีใต้ว่าระบบเรดาร์ของ THAAD จะมุ่งเน้นติดตามความเคลื่อนไหวในเกาหลีเหนือเท่านั้น “ฟังไม่ขึ้น” เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญทางการทหารมากมายต่างเชื่อว่า หากติดตั้งระบบดังกล่าวบนคาบสมุทรเกาหลีแล้ว ขีปนาวุธจีนย่อมหนีไม่พ้นเป็นเป้าหมายในการตรวจติดตาม ซึ่งถือเป็นการบ่อนทำลายอำนาจในการป้องปรามของจีน และทำลายความมั่นคงของจีน

ไม่เพียงเท่านั้น ปักกิ่งยังอาจต้องพะวักพะวงกับญี่ปุ่นด้วย ดังที่ ริกี เอลลิสัน ผู้ก่อตั้งกลุ่มคลังสมองที่ใช้ชื่อว่า มิสไซล์ ดีเฟนซ์ แอดโวเคซี อัลลายแอนซ์ ชี้ว่า การปล่อยดาวเทียมของเกาหลีเหนือเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาอาจทำให้โตเกียวมีเหตุผลสนับสนุนในการติดตั้งระบบ THAAD ถึงแม้ โยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ (8) ว่า ไม่มีแผนการรูปธรรมในการติดตั้งระบบดังกล่าวเร็วๆ นี้ก็ตาม

ทั้งนี้ อเมริกาได้โยกย้ายระบบ THAAD 1 ใน 5 ชุดไปยังเกาะกวมในปี 2013 เพื่อติดตามภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ และขณะนี้ยังกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนสถานที่ทดสอบในฮาวายให้กลายเป็นฐานติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธ “เอจิส” เวอร์ชันซึ่งพัฒนาจากที่เคยประจำการบนเรือให้ติดตั้งบนบกได้ และพร้อมสำหรับการสู้รบ

กระนั้น ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังสงสัยในประสิทธิภาพของ THAAD ในการรับมือจรวดพิสัยไกลแบบที่เกาหลีเหนือยิงล่าสุด โดยเพนตากอนก็ยอมรับว่ายังไม่เคยทดสอบต่อสู้กับอาวุธระดับนี้

THAAD นั้นมุ่งออกแบบมาเพื่อสกัดและทำลายขีปนาวุธที่อยู่ในหรือเพิ่งออกสู่ชั้นบรรยากาศระหว่างการบินช่วงสุดท้าย โดยได้รับการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพในการรับมือขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยกลาง

อย่างไรก็ดี เดวิด ไรต์ ผู้อำนวยการร่วมโกลบัล ซีเคียวริตี โปรแกรม ของยูเนียน ออฟ คอนเซิร์น ไซเอนทิสต์ ในอเมริกา ชี้ว่า แม้ THAAD อาจไม่สามารถสอยจรวดแบบที่เกาหลีเหนือทดสอบล่าสุด แต่การติดตั้งบนคาบสมุทรเกาหลีจะทำให้โซลมั่นใจยิ่งขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น การรื้อฟื้นการหารือเรื่องระบบต่อต้านขีปนาวุธระหว่างอเมริกากับเกาหลีใต้ ยังอาจเป็นการส่งสารไปถึงจีนว่าปักกิ่งจำเป็นต้องเข้าไปควบคุมโครงการขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเข้มงวดขึ้น

นอกจากการหารือเพื่อติดตั้ง THAAD แล้ว ยังมีรายงานว่า ในสัปดาห์นี้ พลเอก (นาวิกโยธิน) โจเซฟ ดันฟอร์ด ประธานเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯ จะเดินทางไปยังฮาวาย ซึ่งเป็นที่ตั้งกองบัญชาการทหารภาคพื้นแปซิฟิกของสหรัฐฯ เพื่อประชุมกระชับความร่วมมือทางทหารกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยการหารือคราวนี้กำหนดขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา

รายงานคาดว่า พลเอก ลี ซุนจิน ประธานเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ จะร่วมหารือผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า พลเรือเอก คัตสึโอชิ คาวาโน ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น จะเดินทางไปประชุมด้วยตนเอง หรือใช้ระบบประชุมทางไกล

นอกจากนั้นเมื่อวันอังคาร (9) ประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ ยังเผยว่าได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น และทั้งหมดเห็นพ้องว่าจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อหามาตรการลงโทษที่รุนแรงและมีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อเกาหลีเหนือ ทั้งโดยผ่านมาตรการของสหประชาชาติ และช่องทางอื่นๆ

ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นมีมติออกคำแถลงประณามการปล่อยดาวเทียมของเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง และให้สัญญาว่าจะดำเนินการเพื่อลงโทษโสมแดง ขณะที่วอชิงตันยืนยันว่า คณะมนตรีความมั่นคงจะกำหนด “ผลที่ติดตามมาอย่างรุนแรง” ต่อเปียงยางโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ดี ปัญหาอยู่ที่จีน ซึ่งเป็นสมาชิกถาวรรายหนึ่งของคณะมนตรีความมั่นคงยังคงคัดค้านการใช้มาตรการลงโทษสถานหนักต่อเกาหลีเหนือ ถึงแม้เมื่อวันจันทร์ปักกิ่งแสดงการเห็นพ้องว่ามาตรการลงโทษใหม่ของยูเอ็นจะต้องรวมมาตรการเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากที่เคยดำเนินการมา ทว่า วอชิงตันยังคงกดดันให้ปักกิ่งบีบเปียงยางหนักข้อขึ้น

นักการทูตผู้หนึ่งเผยว่า อเมริกาหวังให้นานาชาติปิดกั้นระบบการธนาคารของเกาหลีเหนือ แต่ปักกิ่งยังลังเลที่จะเอาด้วย เพราะกลัวว่าจะทำให้สถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านที่ยากจนข้นแค้นยิ่งเลวร้ายลง


กำลังโหลดความคิดเห็น