รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - หลังเปียงยางยิงจรวดขีปนาวุธ Unha- 3 ที่มีพิสัยทำการไม่ต่ำกว่า 10,000 กม.ไปถึงชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่งดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ Kwangmyongsong-4 ขึ้นสู่วงโคจรเมื่อวานนี้(7 กพ.)ล่าสุด กองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ (U.S. Strategic Command–STRATCOM) ยืนยันว่า พบมิสไซล์เกาหลีเหนือได้เข้าสู่ชั้นอวกาศ ด้านกองทัพเกาหลีใต้ระบุ จรวดมิสไซล์ส่ง “วัตถุลึกลับ” เข้าสู่วงโคจรโลก ที่ทางโลกตะวันตกตั้งข้อสงสัยในตอนแรกว่า การปล่อยจรวดครั้งนี้อาจเป็นการทดสอบขีปนาวุธรอบใหม่ ด้านเปียงยางแถลงความสำเร็จงดงามพร้อมภาพประธานาธิบดี คิม จอง อึน แหงนมองด้วยความภูมิใจ
รอยเตอร์รายงานวันนี้(8 กพ.)ว่า หลังจากที่เปียงยางได้ยิงจรวดขีปนาวุธUnha- 3ในเวลา 9.00 น.ของวันอาทิตย์(7 กพ.)จากศูนย์ปล่อยดาวเทียมโซเฮในตองชาง-รี ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาหลีเหนือ ที่ทางเปียงยางอ้างว่า ต้องการนำดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ Kwangmyongsong-4ขึ้นสู่วงโคจรของโลกนั้น มีรายงานยืนยันล่าสุดจากกองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ (U.S. Strategic Command–STRATCOM) ของกองทัพสหรัฐฯว่า จรวดเกาหลีเหนือได้เข้าสู่ชั้นอวกาศแล้ว ในขณะที่กองทัพเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ว่า พบจรวดขีปนาวุธของเปียงยาง ส่ง “วัตถุลึกลับ” เข้าสู่วงโคจรโลกสำเร็จ
ซึ่งในแถลงการณ์อ้างความสำเร็จของเปียงยาง รอยเตอร์ชี้ว่า เกาหลีเหนือประกาศว่า สามารถส่งดาวเทียม Kwangmyongsong-4 ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และดาวเทียมดวงนี้จะทำวงโคจรผ่านขั้วโลก (Polar orbit) เป็นวงโคจรที่มีรูปลักษณะเป็นวงกลมโดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางในแนวขั้วโลก โคจรที่ระดับความสูง 500 - 1,000 กม. จากพื้นโลกในทุก 94 นาที
และทางเปียงยางยังแถลงต่อว่า Unha- 3 เข้าสู่อวกาศสำเร็จหลังจากถูกปล่อยออกจากฐานไปแล้ว 10 นาที
แต่ทว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯอ้างโต้ว่า ต้องใช้เวลาหลายวันจึงจะสามารถยืนยันได้ว่า การส่งครั้งนี้สำเร็จหรือไม่
และคำสั่งการส่งดาวเทียม Kwangmyongsong-4 ที่ตั้งตามอดีตประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จอง อิล ผู้พ่อ นั้นมาจากผู้นำเกาหลีเหนือวัย 33 ปี คิม จอง อึน
รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมต่อว่า จากการรายงานข่าวของกระบอกเสียงรัฐบาลเกลหลีเหนือ พบว่ามีการรายงานภาพนิ่งของจรวดสีขาวที่กำลังทะยานขึ้นสู่ฟ้า ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับจรวดที่ถูกยิงทดสอบก่อนหน้านั้น
และในรายงานยังเปิดเผยถึงภาพประธานาธิบดีคิม ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยเจ้าหน้าที่กองทัพเกาหลีเหนือในศูนย์บัญชาการกำลังแหงนมองดูจรวดขีปนาวุธที่กำลังทะยานขึ้นฟ้า
โดยในรายงานของบล็อกเกอร์ที่ติดตามการส่งดาวเทียม sattrackcam.blogspot.com ได้รายงานภาพผู้นำเกาหลีเหนือ และการปล่อยจรวดขีปนาวุธUnha- 3 อย่างละเอียด
ซึ่งก่อนหน้านี้จากการรายงานของสื่อเกาหลีใต้ สำนักข่าวยอนฮับ ผ่านการรายงานของรอยเตอร์พบว่ามีบางส่วนของจรวดขีปนาวุธได้ตกลงไปบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งเกาะเจจูทางตะวันตกเฉียงใต้ สถานที่สุดฮิตของเกาหลีใต้ และชี้ว่า การปล่อย Unha- 3 อาจล้มเหลว แต่ทางโซลไม่ยืนยันในเรื่องนี้ ในขณะที่สถานีโทรทัศน์ NHKของญี่ปุ่นรายงานในวันอาทิตย์(7 กพ.) ว่า พบซากจรวดหลายตอนของเกาหลีเหนือตกลงในทะเลจีนตะวันออก ห่างจากชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรเกาหลีราว 250 กม. หลังจากปล่อยออกไปประมาณ 14 นาที
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้(8 กพ.)สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า ทางเรือกองทัพเกาหลีใต้ได้ยิงเตือนเรือตรวจการยามฝั่งเกาหลีเหนือในทะเลเหลือง หลังจากที่เรือลำนี้ได้ล้ำเส้นจำกัดพรมแดนเกาหลีเหนือ NLL ซึ่งขีปนาวุธ Unha- 3 ได้ทะยานผ่านเหนือน่านน้ำแห่งนี้ 1 วันก่อนหน้านี้ รายงานจากแถลงการณ์กองทัพเกาหลีใต้
ด้านสื่อสำรวจอวกาศสหรัฐฯ สเปซ ไฟลต์ อินไซเดอร์ รายงานเพิ่มเติมว่า ขีปนาวุธ Unha- 3 ของเปียงยางนั้นมีพิสัยทำการครอบคลุมไปถึงฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ หรือมีศักยภาพมากพอที่จะสามารถส่งดาวเทียมดวงเล็กๆขึ้นสู่วงโคจรโลกสำเร็จ
โดยมีความเชื่อว่า จรวดขีปนาวุธ Unha- 3 มีพิสัยทำการไม่ต่ำกว่า 10,000 กม.
สเปซ ไฟลต์ อินไซเดอร์ รายงานเพิ่มเติมต่อว่า จากข้อมูลของ STRATCOM แห่งสหรัฐฯพบว่า หลังจากจรวดขีปนาวุธเกาหลีเหนือได้ถูกปล่อยในแนวทำมุมตั้งฉากกับโลกแล้ว หลังจากนั้นจรวดขีปนาวุธ Unha- 3 ได้มุ่งหน้าในทิศใต้เหนือทะเลเหลือง ซึ่งสื่อเกาหลีใต้และจีนรายงานว่า มีบางส่วนของจรวดในเฟสแรกได้แยกตัวออก และชิ้นส่วนจำนวน 270 ชิ้นได้ตกลงไปในน่านน้ำทางฝั่งตะวันตกของเกาหลีใต้หลังจาก 7 นาทีแรกที่จรวดขีปนาวุธ Unha- 3ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
โดย STRATCOM ได้ออกแถลงความมีใจความว่า “์ ศูนย์ป้องกันภัยทางอากาศอเมริกาเหนือ NORAD ได้ประเมินว่า ไม่มีโอกาสที่มิสไซล์เกาหลีเหนือจะสามารถเป็นภัยต่ออเมริกาเหนือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งชายแหละหญิงของหน่วยงานทั้ง 4 ประกอบไปด้วยหน่วยงานUSSTRATCOM และ NORAD และ USNORTHCOM, และ USPACOM จะยังคงเฝ้าระวังในการแสดงความคุกคามของเกาหลีเหนือ และทางเราจะยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธิมิตรของสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นเพื่อยังคงทำให้ในภูมิภาคนี้มีความมั่นคงต่อไป”
และสื่อสำรวจอวกาศสหรัฐฯรายงานเพิ่มเติมว่า สถาบันพัฒนาเทคโนโลยีด้านอวกาศแห่งชาติเกาหลีเหนือ NADA ได้เปิดเผยถึงข้อมูลเพิ่มเติมของดาวเทียม Kwangmyongsong-4 ว่า ดาวเทียมดวงนี้ถูกส่งไปประจำวงโคจรผ่านขั้วโลก สัมพันธ์กับดวงอาทิตย์(Sun-synchronous polar orbit ) 494.6 กม.ทำมุมละติจูดใกล้กับโลกมากที่สุด (perigee altitude ) และทำมุมละติจูดแนวเอียงในตำแหน่งไกลที่สุดบนวงโคจร (apogee altitude) ที่ 94.7 องศาในทุกรอบ 94 นาที 24 วินาที
ซึ่งทาง NADA อ้างว่าวัตถุอวกาศที่ถูกส่งขึ้นไปนี้มีน้ำหนักราว 200 กม. และมีกำหนดการปฎิบัติงานเป็นเวลา 4 ปี
ด้านเดวิด ไรต์(David Wright)ผู้อำนวยการร่วมและนักวิทยาศาสตร์อาวุโสด้านความมั่นคงโลกประจำหน่วยงาน the Union of Concerned Scientists. ให้ความเห็นในเรื่องนี้ผ่านการรายงานของรอยเตอร์ในวันนี้(8 กพ.)ว่า
ในการส่งจรวดขีปนาวุธพิสัยไกลของเกาหลีเหนือในปี 2012 ได้ส่ง “ดาวเทียมสื่อสาร” ขึ้นสู่วงโคจรสำเร็จ แต่ทว่าไม่พบว่ามีการตรวจจับสัญญาณจากดาวเทียมดวงนี้ได้
และทำให้ไรต์ได้ให้ความถึงการยิง ขีปนาวุธUnha- 3 ล่าสุดว่า “หากทางเกาหลีเหนือสามารถเชื่อมโยงการติดต่อกับดาวเทียมKwangmyongsong-4 ได้สำเร็จจริง ทางเกาหลีเหนือจะได้เรียนรู้เป็นครั้งแรกถึงการควบคุมดาวเทียมนอกโลก”
นอกจากนี้ ไรต์ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมต่อว่า “และในกรณีที่ล้มเหลว ทางเปียงยางจะได้มีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้นในการส่งจรวด และการทำให้ระบบของขีปนาวุธเสถียร”
นอกจากนี้ สเปซ อินไซเดอร์ยังรายงานเพิ่มเติมในส่วนข้อมูลของจรวดขีปนาวุธ Unha- 3ว่า จรวดขีปนาวุธนี้มีความยาว 30 ม.ซึ่งเป็นจรวดที่มี 3 ตอน และมีน้ำหนักโดยรวมประมาณ 91 เมตริกตัน และมีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 2.4 ม.
และพบว่าขีปนาวุธUnha- 3 ใช้เคโรเซน(Kerosane)เป็นเชื้อเพลิง และมีการใช้ไนตริก แอซิด อ็อกซิไดเซอร์(Nitric acid oxidizer) ทำให้จรวดขีปนาวุธของเปียงยางสามารถพุ่งทะยานออกจากฐานปล่อยได้
สื่อด้านสำรวจอวกาศยังรายงานเพิ่มเติมต่อว่า Unha- 3มีความสามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากสุดถึง 100 กก.ขึ้นเข้าสู่วงโคจร
โดยพบว่ามีการปล่อย Unha- 3 เป็นครั้งแรกในเดือนเมษายน 2012 แต่ล้มเหลวจากการที่ไม่สามารถเข้าไปยังตำแหน่งวงโคจรได้
ด้านสื่อโอลิเปียน รายงานในวันเสาร์(6 กพ.)ในขณะที่เกาหลีเหนือยืนยันว่า การส่งจรวด Unha- 3 ครั้งนี้ กระทำไปด้วยเหตุผลการพัฒนาด้านสันติ แต่ชาติต่างๆ รวมไปถึง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ต่างตั้งข้อกังขาว่า แท้จริงแล้วเปียงยางอาจต้องการทดสอบการยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ที่การพัฒนาจรวดกระสวยอวกาศและการพัฒนามิสไซล์นั้นถูกจัดเป็นเทคโนโลยีเดียวกัน
โดยจากการเห็นได้ว่าพิสัยทำการของจรวดขีปนาวุธ Unha- 3 นั้นครอบคลุมไปถึงทวีปอเมริกาเหนือ และสามารถทำอันตรายต่อสหรัฐฯบริเวณชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนียได้
นอกจากนี้สื่อโอลิมเปียนยังรายงานเพิ่มเติมว่า ทางชาติตะวันตกต่างมองว่า โครงการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ และมิสไซล์พิสัยไกลของเปียงยางเพื่อเป้าหมายที่แท้จริงของเกาหลีเหนือในความต้องการที่จะมีมิสไซล์พิสัยไกลติดหัวรบนิวเคลียร์ในความครอบครอง ซึ่งพบว่าในรัฐบาลของ คิม จอง อุน โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้ถูกทดสอบอย่างต่อเนื่อง
มีรายงานว่า ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือได้เป็นผู้สั่งให้มีการทดสอบนิวเคลียร์ 4 ครั้ง และการทดสอบยิงขีปนาวุธระยะไกลอีก 3 ครั้งด้วยกัน
โดยในอาทิตย์(7 กพ.) สำนักข่าวยอนฮับ ของเกาหลีใต้รายงานว่า สำนักงานข่าวกรองเกาหลีใต้ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทางเปียงยางมีแผนที่จะทดสอบนิวเคลียร์รอบใหม่เป็นครั้งที่ 5
และมีรายงานเพิ่มเติมว่า ในการปล่อยขีปนาวุธของเปียงยาง อย่างน้อย 3 ชาติ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ได้ติดตาม(track down)จรวดขีปนาวุธ Unha- 3 หลังจากได้ถูกปล่อยออกจากศูนย์ปล่อยขีปนาวุธโซแฮปไปแล้ว ซึ่งทางสื่อโอลิมเปียนรายงานว่า ไม่พบชิ้นส่วนไหม้หรือเสียหายของจรวดขีปนาวุธ Unha- 3 ตกลงมา
