xs
xsm
sm
md
lg

อินโดฯสั่งเฝ้าระวัง หลังพบไวรัสซิกาแพร่กระจายในประเทศตั้งแต่ปีก่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเร่งพ่นยากันยุงที่เป็นพาหะของไวรัสซิกา
เอเอฟพี - อินโดนีเซียยืนยันอย่างเป็นทางการในวันพุธ(3ก.พ.) ว่าเคยพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน โดยที่ชายรายนี้ไม่เคยเดินทางไปต่างแดนด้วย แต่ระบุว่าได้เตรียมพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคติดต่อนี้ที่กระพือความตื่นตระหนกในทวีปอเมริกาไว้แล้ว

เจ้าหน้าที่รัฐบาลยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาที่มียุงเป็นพาหะเพียงรายเดียวในจังหวัดจัมบิ บนเกาะสุมาตรา ทั้งนี้มันถูกพบโดยเหล่านักวิจัยที่กำลังเก็บรวบรวมตัวอย่างระหว่างการแพร่ระบาดของไข้เลือดออกช่วงเดือนธันวาคม 2014 ถึงเมษายน 2015

"เราพบคนไข้ติดเชื้อในจัมบิ แต่ทางกระทรวงสาธารณสุขระบุว่ามันอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว" ปวน มาฮารานี บอกกับผู้สื่อข่าวหลังร่วมประชุมระดับสูงตามคำสั่งของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด เพื่อหารือเกี่ยวกับไวรัสชนิดนี้

ซิกากระพือความกังวลในหลายพื้นที่ของทวีปอเมริกา ด้วยมันต้องสงสัยว่าเป็นต้นตอทำให้ทารกแรกเกิดมีภาวะศีรษะเล็กกว่าปกติและอาจทำให้สมองเสียหาย ขณะทีผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้จะมีอาการคล้ายไข้เลือดออก

เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่าเอเชียเป็นภูมิภาคที่อ่อนแออย่างยิ่งต่อไวรัสซิกา เนื่องจากเป็นดินแดนที่ยุงลายบ้าน ซึ่งเป็นพาหะนำโรค เจริญเติบโตได้ดีตามเมืองแออัดต่างๆ

เจ้าหน้าที่ในอินโดนีเซีย ประเทศเขตร้อนที่มีประชากร 250 ล้านคนและเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคต่างๆที่มียุงเป็นพาหนะเป็นปกติ เรียกร้องประชาชนอยู่ในความสงบและระวัดระวัง

"ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกและหมั่นทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบ" มาฮารานีกล่าว "รัฐบาลคาดหวังว่ามันจะไม่กลายเป็นโรคระบาดในอินโดนีเซีย"

สถาบันไอค์มาน ที่มีสำนักงานในจาการ์ตา เผยเมื่อวันอาทิตย์(31ม.ค.) ว่าชายวัย 27 ปีที่พำนักอยู่ในจังหวัดจัมบิ ติดเชื้อไวรัสซิกา แม้ไม่เคยเดินทางไปต่างแดน

กรณีตรวจพบการติดเชื้อคราวนี้ซึ่งเกิดขึ้นขณะที่เหล่านักวิจัยกำลังตรวจสอบตัวอย่างจากการแพร่ระบาดของไข้เลือดออก ทำให้สรุปได้ว่าไวรัสซิกาแพร่กระจายอยู่ในอินโดนีเซีย มาระยะหนึ่งแล้ว

องค์การอนามัยโลกเมื่อวันจันทร์ (1 ก.พ.) ประกาศให้ไวรัสซิกา ซึ่งมียุงเป็นพาหะเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังจากก่อนหน้านั้นเคยออกมาเตือนว่าไวรัสชนิดนี้กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในทวีปอเมริกา ด้วยคาดหมายว่าจะมีผู้ติดเชื้อสูงสุด 4 ล้านคน


กำลังโหลดความคิดเห็น