รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันวอชิงตันและโซลไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องส่ง “อาวุธนิวเคลียร์” ไปป้องกันเกาหลีใต้ หลังจากที่เกาหลีเหนือทดสอบระเบิดไฮโดรเจนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่าการทำเช่นนั้นจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันด้านอาวุธในภูมิภาค
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อยืนยันว่า สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้หารือเกี่ยวกับการจัดส่ง “ทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์” ของอเมริกาไปเพิ่มเติมบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งทรัพย์สินที่ว่านี้อาจหมายถึงเครื่องบินทิ้งระเบิดที่สามารถขนอาวุธนิวเคลียร์ได้ ทว่าไม่ใช่การนำอาวุธนิวเคลียร์จากสหรัฐฯ เข้าไปยังคาบสมุทรเกาหลีเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี
“การส่งอาวุธนิวเคลียร์กลับเข้าไปยังคาบสมุทรเกาหลีจะทำให้ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคตั้งคำถามว่า เอามาใช้ทำอะไร จนอาจนำไปสู่การแข่งขันด้านอาวุธซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างมาก”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ จะยิ่งทำให้เปียงยางเร่งรัดพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ของตนหรือไม่ เจ้าหน้าที่ผู้นี้ก็ตอบว่า “เป็นไปได้มาก”
“แม้เราจะไม่มีเจตนาคุกคามพวกเขา แต่เกาหลีเหนือก็เอาเรื่องภัยคุกคามจากสหรัฐฯ และพันธมิตรของเรามาเป็นข้ออ้างพัฒนานิวเคลียร์ตลอดมา”
หากสหรัฐฯ ส่งอาวุธนิวเคลียร์ไปยังเกาหลีใต้ “จะยิ่งทำให้ผู้นำเกาหลีเหนือมุ่งมั่นที่จะครอบครองอาวุธทำลายล้างสูง และจะเป็นข้ออ้างอย่างดีสำหรับพวกเขา”
อดีตประธานาธิบดี จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช เป็นผู้ออกคำสั่งถอนอาวุธนิวเคลียร์สหรัฐฯ ออกจากเกาหลีใต้ในปี 1991
สื่อสหรัฐฯ และเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ที่วอชิงตันจะส่งมาเสริมเขี้ยวเล็บบนคาบสมุทรเกาหลี อาจรวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ ยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน ซึ่งขณะนี้ประจำการอยู่ในญี่ปุ่น, เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน บี-2 และฝูงบินขับไล่ เอฟ-22
สหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-52 สตราโตฟอร์เทรสส์ จากฐานทัพอากาศแอนเดอร์เซนบนเกาะกวมไปยังเกาหลีใต้เมื่อวันอาทิตย์ (10) โดยระบุว่า การส่ง บี-52 มาบินเหนือน่านฟ้าเกาหลีใต้ครั้งนี้ก็เพื่อแสดงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการเป็นพันธมิตรทางทหารกับโซล และเพื่อตอบโต้การทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 ของเกาหลีเหนือโดยตรง