เอเอฟพี – ศาลเปิดการไต่สวนเจ้าหญิงคริสตินาแห่งสเปน และพระสวามี ในคดีทุจริตที่สร้างความเสื่อมเสียแก่ทั้งประเทศและราชวงศ์บูร์บงของสเปน ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนทั่วโลก คาดศาลใช้เวลาพิจารณาคดี 6 เดือน ซึ่งหากเจ้าหญิงแห่งสเปนผิดจริงจะต้องโทษจำคุกนาน 8 ปี ส่วนพระสวามีอาจต้องโทษจำคุกนานกว่า 19 ปี
เจ้าหญิงคริสตินา พระชันษา 50 ปี เป็นสมาชิกราชวงศ์สเปนพระองค์แรกที่ถูกตั้งข้อหาคดีอาญา นับจากที่ระบอบการปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุขได้รับการสถาปนาขึ้นอีกครั้งในสเปน หลังสิ้นผู้นำเผด็จการ นายพลฟรานซิสโก ฟรังโก ในปี 1975
การพิจารณาคดีเจ้าหญิงคริสตินาและผู้ถูกกล่าวหาอีก 17 คน ซึ่งรวมถึงพระสวามีของพระองค์ คือ อินากี เออร์ดันการิน อดีตนักกีฬาเหรียญทองแฮนด์บอลทีมชาติสเปน เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 9.20 น. (15.30 น. ตามเวลาไทย) ของวันจันทร์ (11) ที่ห้องพิจารณาคดีชั่วคราวในพัลมา เกาะมาญอร์กา ซึ่งเป็นที่ตั้งพระตำหนักตากอากาศของราชวงศ์สเปน
เจ้าหญิงคริสตินาถูกกล่าวหาว่า เลี่ยงภาษี ขณะที่เออร์ดันการินถูกกล่าวหาในคดีอาญาที่ร้ายแรงกว่าคือ ฉ้อโกง ใช้อิทธิพลแสวงหาผลประโยชน์ ปลอมแปลงเอกสาร ฟอกเงิน โกงภาษี
ผู้สื่อข่าวจากทั่วโลกเข้ารับฟังการพิจารณาคดีอย่างเนืองแน่น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องเปลี่ยนสถานที่จากศาล มาเป็นโรงเรียนรัฐบาลชานเมืองพัลมาที่กว้างขวางกว่า
การพิจารณาคดีนี้เกิดขึ้นขณะที่สเปนกำลังเดือดดาลกับข่าวคอร์รัปชันอื้อฉาวของนักการเมือง สหภาพแรงงาน นายธนาคาร ไปจนถึงนักฟุตบอล ซึ่งบ่อนทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสถาบันและชนชั้นสูง ภายหลังวิกฤตเศรษฐกิจที่บีบให้รัฐบาลต้องออกมาตรการรัดเข็มขัดเข้มงวด
ชาวสเปนบางคนบ่นว่า ไม่เคยเห็นยุคไหนที่คอร์รัปชั่นระบาดหนักเท่านี้มาก่อน บ้างไม่เชื่อว่า ศาลจะกล้าส่งเจ้าหญิงคริสตินาเข้าเรือนจำ
คดีนี้มีผู้เล่นสำคัญ คือ "นูส์ อินสติติวท์" ซึ่งเป็นมูลนิธิการกุศลในพัลมา ที่เออร์ดันการินก่อตั้งและเป็นประธานตั้งแต่ปี 2004 - 2006
เออร์ดันการินวัย 47 ปี กับอดีตหุ้นส่วนธุรกิจ “ดิเอโก ตอร์เรส” ถูกสงสัยว่ายักยอกเงิน 6.2 ล้านยูโร (6.7 ล้านดอลลาร์) จากกองทุนสาธารณะที่จ่ายโดยรัฐบาลท้องถิ่นสองแห่งเพื่อให้มูลนิธิแห่งนี้จัดการแข่งขันกีฬาและงานกิจกรรมอื่น ๆ
เออร์ดันการินยังถูกกล่าวหาว่า ใช้ความสัมพันธ์กับราชวงศ์คว้าสัญญามูลค่ามหาศาลโดยไม่มีการประมูลและยักย้ายเงินเข้าสู่ไอซูน บริษัทที่เขาและเจ้าหญิงคริสตินาบริหารร่วมกัน โดยเชื่อว่าทั้งคู่ผันเงินจากบริษัทแห่งนี้ไปปรนเปรอไลฟ์สไตล์หรูส่วนตัว ซึ่งรวมถึงแมนชันในบาร์เซโลนา ทริปอุทยานแห่งชาติครูเกอร์ในแอฟริกาใต้ ฯลฯ
เป็นที่คาดว่า ศาลจะใช้เวลาในการพิจารณาคดีนาน 6 เดือน ซึ่งหากเจ้าหญิงคริสตินา ที่ปฏิเสธไม่รู้เห็นกิจกรรมใด ๆ ของพระสวามี ถูกตัดสินว่าผิดจริง อาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 8 ปี ส่วนเออร์ดันการิน อาจต้องจำคุกนานกว่า 19 ปี
ทั้งนี้ เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตและอาการประชวรทำให้กษัตริย์ฮวน คาร์ลอส พระบิดาของเจ้าหญิงคริสตินา ตัดสินใจสละบัลลังก์ในปี 2014 ให้แก่เจ้าชายเฟลิเป ผู้เป็นพระโอรส
นับจากขึ้นครองราชย์ กษัตริย์ฟิลิเปที่ 6 ทรงอนุญาตให้สำนักงานบัญชีภายนอกเข้าตรวจสอบบัญชีพระราชวัง ทั้งยังให้คำมั่นจะปกครองประเทศด้วยความซื่อตรงและโปร่งใส
ปีที่แล้ว กษัตริย์เฟลิปเปทรงถอดพระอิสริยยศดัชเชสและดยุคแห่งพัลมาของเจ้าหญิงคริสตินาและพระสวามี ที่อดีตกษัตริย์ฮวน คาร์ลอส ประทานให้ในโอกาสที่ทั้งคู่สมรสกันเมื่อปี 1997
ทั้งนี้ ตอร์เรส อดีตหุ้นส่วนธุรกิจของเออร์ดันการิน ยืนยันว่า กษัตริย์ฮวนคาร์ลอสและคณะที่ปรึกษา ทรงรู้และอนุมัติการดำเนินธุรกิจของราชบุตรเขยที่ “นูส์ อินสติติวต์” อีกทั้งอ้างว่ามีอีเมลนับร้อยฉบับที่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้