xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำศรีลังกาประกาศมอบที่ดินสร้างบ้านแก่ ปชช.เรือนแสนที่เป็นเหยื่อสงครามกลางเมืองในประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี / เอเจนซีส์ / MGR online - ประธานาธิบดีไมตรีพาลา สิริเสนา แห่งศรีลังกา เผยในวันอาทิตย์ (3 ม.ค.) เตรียมมอบที่ดินสำหรับปลูกสร้างบ้านเรือนให้แก่ประชาชนมากถึง 100,000 ราย ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกของประเทศที่ยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่ในค่ายพักชั่วคราวถึงแม้สงครามกลางเมืองกับกลุ่มกบฏทมิฬอีแลมจะสิ้นสุดมานานกว่า 6 ปีแล้วก็ตาม

ผู้นำศรีลังกาซึ่งก้าวขึ้นสู่อำนาจหลังคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพีโดยระบุว่า ตัวเขากำลังจัดตั้งกลไกเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลา 6 เดือน ซึ่งจะช่วยให้บรรดาผู้อพยพพลัดถิ่นภายในประเทศทั้งหมดจากผลพวงของสงครามกลางเมืองที่ได้ชื่อว่านองเลือดและยาวนานที่สุดของภูมิภาคเอเชียใต้ได้มีโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสิริเสนาได้รับการยกย่องในวงกว้างจากการที่เขาเริ่มเดินหน้าส่งคืนที่ดินทำกินบางส่วนให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองกับกลุ่มกบฏทมิฬอีแลม แต่ถึงกระนั้นเขาเองยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากนานาชาติต่อความล่าช้าในการผลักดันกระบวนการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งภายในประเทศ ระหว่างชาวสิงหลกับชาวทมิฬที่ยังคงหยั่งรากลึกในสังคมศรีลังกาในปัจจุบัน

นอกเหนือจากผู้ได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกของประเทศแล้ว ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับมอบที่ดินสำหรับปลูกสร้างบ้านเรือนจากรัฐบาลศรีลังกาในครั้งนี้ ยังรวมถึงผู้อพยพหนีภัยสงครามกลางเมืองที่เขตชายฝั่ง “ปุตตาลัม” ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าการรับมอบที่ดินจากรัฐบาลจะเริ่มดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมภายในช่วงกลางปีนี้

รายงานข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีไมตรีพาลา สิริเสนา ในวัย 64 ปี ยังเตรียมออกมาตรการคู่ขนานภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้าด้วยการปลดปล่อยที่ดินของเอกชนในอดีตพื้นที่สู้รบที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกองทัพคืนแก่เจ้าของที่ดินด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ศรีลังกาต้องเผชิญกับภาวะสงครามกลางเมืองกับกลุ่มกบฏทมิฬอีแลมระหว่างปี ค.ศ. 1972-2009 ซึ่งความขัดแย้งนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนในศรีลังกาไปมากกว่า 100,000 ราย ยังไม่นับรวมกับความบาดหมางทางเชื้อชาติระหว่างชาวสิงหลที่เป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศกับชนกลุ่มน้อยชาวทมิฬที่ยังคงคุกรุ่นมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้สงครามกลางเมืองจะสิ้นสุดลงแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น