เอเอฟพี – ชาวศรีลังกาเดินทางออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาตั้งแต่เช้าตรู่วันนี้ (17 ส.ค.) ขณะที่หลายฝ่ายจับตาว่า อดีตประธานาธิบดี มหินทา ราชปักษี อาจหวนกลับสู่เวทีการเมืองด้วยการคว้าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปครอง หลังจากที่พ่ายศึกเลือกตั้งเมื่อ 8 เดือนที่แล้วจนสูญเสียเก้าอี้ผู้นำสูงสุดไปแบบเหนือความคาดหมาย
หน่วยเลือกตั้งทั่วศรีลังกาเริ่มเปิดให้ประชาชนลงคะแนนในเวลา 7.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (8.30 น. ตามเวลาในไทย) และจะเริ่มปิดหีบนับคะแนนหลังผ่านไป 9 ชั่วโมง ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดโดยตำรวจและกองกำลังกึ่งทหารราว 74,000 นาย
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหลายร้อยคนไปเข้าคิวรอที่หน้าหน่วยเลือกตั้ง 12,300 แห่งทั่วประเทศตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลาเปิดหีบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มข้น เพื่อให้ผลเลือกตั้งครั้งนี้ขาวสะอาดและเป็นธรรม
“ใครก็ตามที่พยายามปลอมตัวเข้ามาใช้สิทธิ์หรือก่อความวุ่นวายในหน่วยเลือกตั้งจะถูกจับกุมแน่นอน”มหินทา เทศปรียา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง บอกกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น
“พวกที่สร้างปัญหาจะได้ไปกินข้าวกลางวันในสถานีตำรวจ และกินข้าวเย็นในคุก”
ตำรวจศรีลังกาเกือบ 3,000 นายถูกส่งเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณหน่วยเลือกตั้ง รวมถึงศูนย์นับคะแนนทุกแห่ง
พลเมืองศรีลังกา 15 ล้านคนที่อายุเกิน 18 ปีขึ้นไปมีหน้าที่ต้องออกไปใช้สิทธิ์เลือกบุคคลที่จะเข้าไปดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาจำนวน 225 คน ซึ่งครั้งนี้อดีตประธานาธิบดี ราชปักษี หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องคว้าเก้าอี้นายกรัฐมนตรีให้ได้ ในขณะที่ประธานาธิบดี ไมตรีพาลา ศิริเสนา ซึ่งเคยโค่น ราชปักษี ได้สำเร็จเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว ยืนยันจะขัดขวางทุกวิถีทางไม่ให้เขาทำสำเร็จ
แม้เครือญาติใกล้ชิดและภริยาของ ราชปักษี จะถูกดำเนินคดีฐานคอร์รัปชัน แต่อดีตประธานาธิบดีผู้มากบารมีคนนี้ก็ยังคงมีฐานเสียงที่เหนียวแน่นในหมู่ชาวสิงหล และหวังที่จะใช้โอกาสนี้ทวงคืนอำนาจที่สูญเสียไป
“ถ้ารัฐบาลชุดปัจจุบันบริหารประเทศได้ดี ผมก็คงเกษียณตัวเองไปแล้ว... แต่ที่ผมตัดสินใจหวนกลับมาเล่นการเมืองเพราะรัฐบาลกำลังทำให้บ้านเมืองยุ่งเหยิง” ราชปักษี กล่าวระหว่างการปราศรัยครั้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง
ราชปักษี ปกครองศรีลังกาอยู่นานร่วม 10 ปี และเป็นผู้นำที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดในภูมิภาคเอเชียใต้ ก่อนที่จะพ่ายแพ้ ศิริเสนา ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 8 มกราคมปีนี้
ประธานาธิบดี ศิริเสนา เคยเป็นเลขาธิการพรรค ยูไนเต็ด พีเพิลส์ ฟรีดอม อัลไลแอนซ์ (UPFA) และเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ก่อนที่จะแยกตัวออกมาเป็นคู่แข่งกับ ราชปักษี
ผลงานของ ราชปักษี ซึ่งทำให้เขาเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ชาวสิงหลซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของศรีลังกา ก็คือการปราบปรามกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลมจนราบคาบในปี 2009 หลังจากที่กองกำลังชาวทมิฬกลุ่มนี้ได้ทำสงครามแบ่งแยกดินแดนมานานถึง 37 ปี
อย่างไรก็ตาม จุดยืนของ ราชปักษี ทำให้พลเมืองเชื้อสายทมิฬที่เคยบอยค็อตต์การเลือกตั้งครั้งก่อนๆ พร้อมใจเทคะแนนให้แก่ ไมตรีพาลา ศิริเสนา จนฉุด ราชปักษี ตกจากบัลลังก์ได้อย่างชนิดที่เจ้าตัวเองก็ไม่คาดฝัน
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ภาพลักษณ์ของ ราชปักษี ซึ่งมีทั้งคนรักและคนเกลียดทำให้เขามีโอกาสน้อยมากที่จะประสบความสำเร็จในการตั้งรัฐบาลผสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะนายกรัฐมนตรีซึ่งจำเป็นจะต้องได้เสียงสนับสนุนจากพลเมืองกลุ่มน้อยในประเทศ
ผลสำรวจในศรีลังกาซึ่งก็ไม่น่าเชื่อถือเท่าที่ควร พบว่าไม่มีพรรคใดเลยที่มีแนวโน้มจะกวาดคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในศึกเลือกตั้งรัฐสภาครั้งนี้