เอเจนซีส์ - ครม.ญี่ปุ่นอนุมัติงบประมาณใช้จ่ายด้านกลาโหมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ มูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท เป็นการรับรองให้จัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากอเมริกาตามแผนกระชับความร่วมมือกับวอชิงตัน และเพื่อปกป้องหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออก ในขณะที่พญามังกรเดินหน้าขยายแสนยานุภาพทางทหารอย่างแข็งกร้าว
ข้อเสนอใช้จ่ายด้านการทหารมูลค่า 5.1 ล้านล้านเยน (ราว42,100 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.53 ล้านล้านบาท) นี้ เป็นส่วนหนึ่งของร่างงบประมาณแผ่นดินประจำปีงบประมาณ 2016 (เม.ย. 2016 - มี.ค. 2017) ของญี่ปุ่น ซึ่งมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 96.7 ล้านล้านเยน (800,000 ล้านดอลลาร์) และถือเป็นงบประมาณที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ร่างบประมาณทั้งฉบับจะต้องรอให้รัฐสภาอนุมัติจึงจะมีผลบังคับใช้ โดยคาดหมายกันว่าการพิจารณาจะมีขึ้นตอนต้นปีหน้า และไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะรัฐบาลมีเสียงสนับสนุนเกินพอในทั้ง 2 สภา
ยอดใช้จ่ายด้านการทหารของญี่ปุ่นในปีหน้าตามแผนการนี้ จะเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณปัจจุบัน 1.5% ถือเป็นการเพิ่มขึ้นปีที่ 4 ภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ที่เข้ามาปิดฉากทศวรรษแห่งการตัดงบประมาณกลาโหมของแดนปลาดิบ
งบประมาณด้านกลาโหมก้อนนี้ยังถือเป็นก้อนแรก ตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นออกกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมบทบาททางทหารของประเทศ ภายหลังจากญี่ปุ่นทบทวนแนวทางความร่วมมือทางการทหารทวิภาคีกับอเมริกาเมื่อต้นปี
กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่นั้นได้รับเสียงต่อต้านจากประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมองว่า อาจทำให้ญี่ปุ่นถูกดึงเข้าร่วมในสงครามที่อเมริกาเป็นแกนนำ
ปัจจุบัน โตเกียวกำลังเพิ่มการตรวจตราและป้องกันหมู่เกาะทางใต้ที่มีข้อพิพาทกับจีน ไม่เพียงเท่านั้น ร่างงบประมาณฉบับใหม่นี้ ยังครอบคลุมการจัดซื้อเรือพิฆาตติดระบบเรดาร์ไฮเทค “เอจิส” และขีปนาวุธ รวมทั้งการต่อเรือดำน้ำ และการพัฒนาระบบโซนาร์
ภายในปีงบประมาณหน้า กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นมีแผนใช้จ่ายเงิน 14,800 ล้านเยนในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ เป็นต้นว่า อากาศยานไร้นักบิน (โดรน) “โกลบัลฮอว์ก” 3, เครื่องบินขับไล่ เอฟ-35 หกลำ ราคา 138,000 ล้านเยน (1,100 ล้านดอลลาร์) และเครื่องบินสำหรับเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ เคซี-46เอ ของโบอิ้ง 1 ลำ ราคา 23,000 ล้านเยน (190 ล้านดอลลาร์)
โทโมกิ มัตสึโอะ เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแสดงความเชื่อมั่นว่า งบประมาณก้อนนี้จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ ในด้านข้อมูล การตรวจตรา และการสอดแนม (หรือที่เรียกว่า “ไอเอสอาร์”)
โตเกียวยังจัดสรรงบประมาณ 193,000 ล้านเยน (1,600 ล้านดอลลาร์) เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการประจำการของทหารอเมริกันราว 50,000 คนในญี่ปุ่นภายใต้สนธิสัญญาความมั่นคงทวิภาคี โดยกว่าครึ่งในจำนวนนี้ประจำอยู่บนเกาะโอกินาวา ถึงแม้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นขัดแย้งหลักระหว่างรัฐบาลกลางกับเกาะดังกล่าวที่ต้องรับภาระนี้มายาวนานหลายสิบปี
ค่าใช้จ่ายในการย้ายทหารอเมริกันเหล่านี้บางส่วนไปยังเกาะกวม ดินแดนของสหรัฐฯในมหาสมุทรแปซิฟิก ตลอดจนแผนการย้ายฐานทัพอากาศของนาวิกโยธินสหรัฐฯ จากย่านฟูเตนมะไปยังพื้นที่มีประชาชนอาศัยอยู่บางตาในโอกินาวะ ก็บรรจุอยู่ในร่างงบประมาณใหม่นี้เช่นกัน
ปัจจุบัน ญี่ปุ่นกำลังสร้างเรือดำน้ำชั้น “ซอร์ยู” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเรือดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลก รวมทั้งกำลังพัฒนาระบบโซนาร์ใหม่ นอกจากนี้ โตเกียวยังกำลังแข่งขันกับเยอรมนีและฝรั่งเศส เพื่อให้ได้สิทธิร่วมพัฒนากองเรือดำน้ำรุ่นใหม่ของออสเตรเลีย