บีบีซีนิวส์/เอเจนซีส์ - ศาลสูงสุดเยอรมนีตัดสินให้ชายผู้หนึ่งต้องทำลายภาพและวิดีโอแสดงความสนิทสนมเป็นส่วนตัวกับอดีตแฟนหญิงของเขา โดยระบุว่าการที่เขายังคงเก็บเอาไว้นั้นเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเธอ
ศาลสูงสุดเยอรมนีซึ่งตั้งอยู่ในเมืองคาร์ลสรูห์ พิพากษาว่าชายผู้นี้ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างภาพ ไม่สามารถเป็นผู้ครอบครองภาพเปลือยและวิดีโอเซ็กส์ของอดีตแฟนหญิงเอาไว้อีกต่อไป ถึงแม้เขาไม่มีความตั้งใจที่จะเผยแพร่ภาพและวิดีโอเหล่านี้ก็ตามที
สตรีผู้นั้นแต่แรกเริ่มทีเดียวได้ยินยอมให้ถ่ายภาพและวิดีโอเอาไว้ก็จริงอยู่ ทว่า การยินยอมดังกล่าวถือว่าสิ้นสุดลงพร้อมๆ กับความสัมพันธ์ที่ยุติลง คำตัดสินของศาลระบุ
เยอรมนีนั้นจัดเป็นประเทศที่มีกฎหมายเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวซึ่งเคร่งครัดที่สุดประเทศหนึ่งในยุโรป และศาลสูงสุดก็รับพิจารณาคดีพิพาทของอดีตคู่รักคู่นี้ ซึ่งทั้งสองโต้แย้งกันว่าฝ่ายชายต้องทำลายภาพและวิดีโออันแสดงความสนิทสนมเป็นส่วนตัวหรือไม่
ในคำพิพากษา ศาลสูงสุดระบุว่าทุกๆ คนมีสิทธิที่จะตัดสินว่าอนุญาตให้เข้าไปรับรู้อย่างลึกซึ้งในชีวิตทางเพศของพวกเขาหรือไม่ รวมทั้งใครที่พวกเขาอนุญาต และอนุญาตในรูปแบบอย่างไร
คำพิพากษากล่าวว่า จากการเก็บภาพและวิดีโอเหล่านี้เอาไว้ต่อไป ช่างภาพผู้นี้ก็จะมี “อำนาจแห่งการครอบงำบงการ” ในบางระดับต่ออดีตแฟนของเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่มีสิทธิในภาพและวิดีโอเหล่านี้อีกต่อไป ในทันทีที่ความสัมพันธ์จบสิ้นลง
เวลานี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า จะมีการปฏิบัติตามคำพิพากษานี้กันอย่างไร
ภาพแบบไหนคือภาพแสดงความสนิทสนมเป็นส่วนตัว?
หลังจากที่เกิดกรณีมีภาพเปลือยหลุดรั่วเผยแพร่ทางออนไลน์กันในระยะหลังๆ มานี้ ทำให้มีการอภิปรายถกเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องสิทธิของเหยื่อ และก็มีบางประเทศออกกฎหมายซึ่งถือว่า การนำเอาภาพเปลือยของอดีตแฟนไปโพสต์ทางออนไลน์ หรือที่เรียกกันว่า “ภาพลามกมุ่งแก้แค้น” (revenge porn) นั้น เป็นความผิดทางอาญา
คัตยา เวเบอร์ ทนายความหญิงชาวเยอรมัน ให้ความเห็นเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลสูงสุดคราวนี้ว่า ได้ตัดสินวางแบบอย่างในประเด็นสำคัญเอาไว้ 2 ประเด็น ได้แก่ การนิยามว่าภาพชนิดไหนถือว่าเป็นภาพแสดง “ความสนิทสนมเป็นส่วนตัว” และการยินยอมในตอนเริ่มแรกให้ถ่ายภาพได้นั้น มีระยะเวลาจำกัดเพียงแค่ช่วงที่ทั้งคู่ยังมีความสัมพันธ์เป็นคู่รักกันเท่านั้น
เธอแจกแจงว่า ภาพแสดง “ความสนิทสนมเป็นส่วนตัว” ไม่ได้หมายถึงเฉพาะพวกซึ่งถ่ายตอนก่อน, ระหว่าง และหลังการมีเซ็กซ์ แต่ยังมีภาพประเภทอื่นๆ ซึ่งรวมอยู่ในกรณีนี้ด้วย
“เราสามารถจินตนาการสถานการณ์ตั้งมากมาย ที่ว่าระหว่างการมีความสัมพันธ์กันนั้น อาจจะทำให้มีการถ่ายภาพชนิดที่เกินเลย
“ตัวอย่างเช่น แม้กระทั่งภาพซึ่งแสดงให้เห็นอีกฝ่ายหนึ่งในสภาพไม่มีเสื้อผ้าบางชิ้น ก็สามารถจัดให้อยู่ในประเภทภาพแสดงความสนิทสนมเป็นส่วนตัว ดังนั้นจึงควรต้องถูกลบทิ้งไปด้วย”
ทนายความหญิงผู้นี้กล่าวต่อไปว่า ในเรื่องการอนุญาตให้ถ่ายภาพได้นั้นไม่จำเป็นต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร สามารถอนุญาตด้วยคำพูดได้
หากใครคนหนึ่งยืนยันว่าอดีตแฟนของตนมีความปรารถนาให้ใช้ภาพเหล่านั้นต่อไปแม้ภายหลังที่ความสัมพันธ์สิ้นสุดลง ตามคำพิพากษาคราวนี้ระบุว่า ฝ่ายนั้นก็ต้องพิสูจน์ว่ามีการยินยอมในลักษณะเช่นนี้จริง ทนายความหญิงผู้นี้อธิบาย