เอเอฟพี - กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) เตรียมแผ่ขยายอิทธิพลในอินโดนีเซีย โดยหวังที่จะสร้างรัฐอิสลามที่ปกครองโดยระบอบคอลีฟะห์ (กาหลิบ) ขึ้นบนหมู่เกาะที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเตือนวันนี้ (22 ธ.ค.)
จอร์จ แบรนดิส อัยการสูงสุดแดนจิงโจ้ ซึ่งได้พูดคุยกับบรรดารัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอินโดนีเซียเมื่อวานนี้ (21) ยอมรับว่าการกำเนิดขึ้นของไอเอสในอินโดนีเซียจะเป็นภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ของแคนเบอร์ราและชาติตะวันตก
“ไอเอสมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประกาศตัวตน และยกระดับกิจกรรมก่อการร้ายในอินโดนีเซีย ทั้งโดยสมาชิกของพวกเขาเองและกลุ่มที่เป็นตัวแทน” แบรนดิส ให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ ดิ ออสเตรเลียน
“คุณเคยได้ยินคำว่า รัฐคอลีฟะห์อันห่างไกล (distant caliphate) บ้างไหม... ไอเอสประกาศเจตนารมณ์แล้วว่าต้องการสร้างรัฐคอลีฟะห์นอกภูมิภาคตะวันออกกลาง ในทำนองว่าเป็นจังหวัดโพ้นทะเลของพวกเขา และประกาศให้อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลัก”
นักรบสุหนี่ไอเอสซึ่งยึดการตีความศาสนาอิสลามแบบสุดโต่ง ได้ประกาศตั้งรัฐคอลีฟะห์ขึ้นในพื้นที่หลายจังหวัดของอิรักและซีเรียที่พวกเขายึดครองไว้ได้
ตำรวจอินโดนีเซียเพิ่งจะสกัดแผนก่อการร้ายในกรุงจาการ์ตาช่วงเทศกาลปีใหม่ และจับกุมกลุ่มหัวรุนแรงที่มีความเชื่อมโยงกับไอเอสได้หลายราย
ปฏิบัติการตรวจค้นทั่วทั้งเกาะชวาเป็นเวลา 3 วันซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันอาทิตย์ (20) สามารถยึดของกลางเป็นวัตถุระเบิดจำนวนหนึ่ง ธงสัญลักษณ์ไอเอส และจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อีก 9 คน
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซียเปิดเผยว่า มุสลิมหัวรุนแรงกลุ่มนี้มีเป้าหมายโจมตีห้างสรรพสินค้า สถานีตำรวจ และพลเมืองกลุ่มน้อยทั่วประเทศ
ทางการอิเหนาได้เพิ่มมาตรการป้องกันเหตุร้ายทั่วประเทศ ขณะที่เมื่อวานนี้ (21) รัฐมนตรีอาวุโสของออสเตรเลียและอินโดนีเซียก็ได้บรรลุข้อตกลงแบ่งปันข่าวกรอง รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มก่อการร้าย หลังเสร็จสิ้นการเจรจาทวิภาคีทั้งที่นครซิดนีย์และกรุงจาการ์ตา
หนังสือพิมพ์ ดิ ออสเตรเลียน รายงานว่า แม้ทางการออสเตรเลียจะเชื่อว่ามีโอกาสน้อยมากที่ไอเอสจะสามารถสร้างรัฐคอลีฟะห์ขึ้นบนดินแดนอิเหนา แต่ก็หวั่นวิตกที่นักรบอิสลามิสต์กลุ่มนี้เริ่มมีอิทธิพลเด่นชัดขึ้นในหมู่เกาะอินโดนีเซีย ซึ่งอาจทำให้ผลประโยชน์ของออสเตรเลียทั้งในอินโดนีเซียและประเทศใกล้เคียงตกอยู่ในความเสี่ยง
ไมเคิล คีแนน รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมออสเตรเลีย เตือนว่า ความเฟื่องฟูของนักรบญิฮาดจะบั่นทอนความมั่นคงทั้งต่อออสเตรเลียและอินโดนีเซีย
“การแผ่อิทธิพลของไอเอสในตะวันออกกลางเป็นสิ่งที่บั่นทอนความมั่นคงของออสเตรเลีย อินโดนีเซีย รวมถึงหุ้นส่วนชาติอื่นๆ ของเรา โดยเฉพาะในภูมิภาคนี้” เขากล่าว
อินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก เคยเผชิญเหตุระเบิดโจมตีโดยมุสลิมหัวรุนแรงหลายระลอกระหว่างปี 2000-2009 โดยเฉพาะเหตุระเบิดไนต์คลับบนเกาะบาหลีเมื่อปี 2002 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 202 ศพ
ปฏิบัติการกวาดล้างอย่างจริงจังของตำรวจอินโดนีเซียทำให้เครือข่ายนักรบหัวรุนแรงอ่อนกำลังลงไปมาก ทว่าการปรากฏตัวของไอเอสในช่วงปีเศษที่ผ่านมาก็ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าชาวอิเหนาที่ไปร่วมสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลาง อาจกลับมาฟื้นฟูลัทธิหัวรุนแรงในประเทศ