รอยเตอร์ - ศาลแบกแดดเมื่อวันพฤหัสบดี(18ก.พ.) พิพากษาประหารชีวิตผู้ต้องขังสมาชิกรัฐอิสลาม(ไอเอส) 40 คน โทษฐานเข่นฆ่าทหารกว่าพันนายที่ถูกพวกนักรบหัวรุนแรงกลุ่มนี้จับกุมตัวไว้ได้ระหว่างปฏิบัติการจู่โจมสายฟ้าแลบบุกยึดดินแดนทางเหนือของอิรักในปี 2014
ทหารราว 1,700 นายถูกสังหารหมู่หลังจากพวกเขาหลบหนีออกจากที่มั่นซึ่งเคยเป็นฐานทัพทหารของสหรัฐฯและตั้งอยู่รอบนอกทางเหนือของเมืองติกริต การเข่นฆ่าที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความโหดเหี้ยมของพวกรัฐอิสลามและความเกลียดชังระหว่างนิกายของพวกเขา ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบสุหนี่ ที่มีต่อชาวมุสลิมชีอะห์ของอิรัก ที่เป็นชนกลุ่มใหญ่ของประเทศ
อับดุล-ซัตตาร์ อัล-เบิร์กดาร์ โฆษกสภายุติธรรมสูงสุดของอิรัก อ้างคำแถลงของศาลอาญาแบกแดด ระบุว่าสมาชิกไอเอสทั้ง 40 คน ถูกพิพากษาประหารชีวิตในข้อหาก่อการร้าย แต่มีจำเลยอีก 7 คนที่ได้รับการชำระคดีและถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ เนื่องจากขาดหลักฐาน
กองกำลังด้านความมั่นคงจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนมากในความเกี่ยวข้องกับเหตุสังหารหมู่ทหารหลังยึดคืนเมืองติกริตจากพวกไอเอสได้สำเร็จเมื่อปีที่แล้ว โดยเมื่อเดือนกรกฏาคมปีก่อน มีผู้ถูกพิพากษาประหารชีวิต 24 รายและเวลานี้อยู่ระหว่างรอผลตัดสินการยื่นอุทธรณ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ศาลเผยว่ามีผู้ต้องสงสัยทั้งหมดกว่า 600 คน
องค์การนิรโทษกรรมสากล ซึ่งมีสำนักงานในลอนดอน ประณามกระบวนการพิจารณาคดีที่นำไปสู่การพิพากษาประหารชีวิต โดยบอกว่ามีช่องโหว่และแสดงให้เห็นถึงการละเลยความยุติธณรมและชีวิตมนุษย์ พร้อมระบุว่าตั้งแต่เข้าสู่ปี 2016 มีจำนวนผู้คนที่ถูกประหารชีวิตในอิรัก เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 100 คนแล้ว
เบิร์กดาร์ บอกว่าโทษประหารชีวิตทั้งหมดจะถูกพิจารณาทบทวนโดยศาลอุทธรณ์ เนื่องจากกฎหมายอิรักให้สิทธิ์อุทธรณ์โดยอนุมัติต่อผู้ถูกพิพากษาประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีพ แม้ว่าจำเลยจะไม่ได้เป็นฝ่ายยื่นอุทธรณ์ด้วยตนเองก็ตาม