เอเจนซีส์ - ซุ้มประตูโค้งอายุราว 2,000 ปีซึ่งได้รับการขนานนามว่า “ประตูชัย” แห่งเมืองมรดกโลกพัลไมราของซีเรีย ถูกกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ระเบิดทำลายจนย่อยยับ อธิบดีกรมโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ของซีเรียเผยวันนี้ (5 ต.ค.)
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา นักรบไอเอสได้ทำลายโบราณสถานอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมหลายแห่งทั้งในซีเรียและอิรัก และเมื่อกลางเดือนสิงหาคมก็ได้ลงมือ “ฆ่าตัดหัว” คอลิด อาซาด นักโบราณคดีคนสำคัญวัย 82 ปี ซึ่งเป็นอดีตผู้อำนวยการกองโบราณวัตถุของซีเรีย
มามูน อับดุลการีม อธิบดีกรมโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ของซีเรีย เตือนว่า ยังมีโบราณสถานที่องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ยกย่องให้เป็นมรดกโลกอีกหลายแห่งเสี่ยงที่จะถูกทำลาย หลังนักรบญิฮาดสามารถยึดเมืองโบราณพัลไมราไว้ได้ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
“เราได้รับข่าวจากคนในพื้นที่ว่าประตูชัยถูกทำลายแล้วเมื่อวานนี้ (4) หลังจากที่ไอเอสเอาระเบิดไปติดตั้งไว้ตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อน” อับดุลการีม ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
“นี่เป็นความจงใจทำลายเมืองพัลไมราอย่างเป็นระบบ พวกเขาต้องการพังทุกอย่างไม่ให้เหลือ... ไม่ว่าจำเป็นแอมฟิเธียเตอร์ (อัฒจันทร์รูปโค้งสำหรับชมการแสดง) หรือแนวเสาหิน เวลานี้เรากลัวว่าเมืองโบราณทั้งเมืองจะถูกทำลายลงไป” เขากล่าว พร้อมวิงวอนให้ประชาคมโลก “หาวิธีปกป้องพัลไมราเอาไว้”
ด้านศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานอยู่ในกรุงลอนดอน และ โมฮัมเหม็ด ฮัสซัน-อัล ฮอมซี นักเคลื่อนไหวชาวซีเรีย ได้ออกมายืนยันว่าเรื่องนี้เป็นความจริง
อับดุลการีมระบุว่า ประตูชัยซึ่งตั้งอยู่ตรงทางเข้าสู่ถนนในเมืองโบราณที่มีเสากลมเรียงราย ถือเป็น “สัญลักษณ์หนึ่งของพัลไมรา” และเชื่อว่านักรบไอเอสยังวางระเบิดไว้ที่โบราณสถานอีกหลายจุด
พัลไมราซึ่งแปลว่า “เมืองแห่งต้นปาล์ม” เป็นโอเอซิสที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงดามัสกัสไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 210 กิโลเมตร และได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลทราย” เมืองแห่งนี้เริ่มมีชื่อปรากฏในช่วงศตวรรษที่ 19 ก่อนคริสตกาล โดยเป็นจุดแวะพักของกองคาราวานที่ใช้เส้นทางสายไหม และผู้ที่เดินทางไป-มาระหว่างอ่าวเปอร์เซียกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ป้อมปราการและซากโบราณสถานภายในเมืองแห่งนี้ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลก และเคยมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมปีละราวๆ 150,000 คน ก่อนที่สงครามซีเรียจะปะทุขึ้น
ก่อนหน้านี้ นักรบไอเอสนิกายสุหนี่ได้ระเบิดทำลายซากวิหาร บาล ชามิน และวิหารเบลอายุราว 2,000 ปี ซึ่งถือเป็น “มาสเตอร์พีซ” ของเมืองโบราณพัลไมรา ด้วยอุดมการณ์ที่จะกำจัดอนุสรณ์สถาน สุสาน หรือรูปปั้นทุกประเภทที่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า นักรบไอเอสใช้การทำลายโบราณสถานเพื่อเป็นสื่อโฆษณาหาแนวร่วมใหม่ๆ และยังนำโบราณวัตถุจำนวนมากไปขายในตลาดมืด เพื่อเอาเงินมาเป็นทุนก่อตั้งรัฐอิสลามที่ปกครองโดยระบอบคอลีฟะห์
สมาคมเพื่อการปกป้องโบราณสถานแห่งซีเรีย (APSA) แถลงว่า มีอนุสรณ์สถานและแหล่งโบราณคดีมากกว่า 900 แห่งในซีเรียถูกปล้น ได้รับความเสียหาย หรือถูกทำลาย ในสงครามกลางเมืองซึ่งยืดเยื้อมาแล้ว 4 ปีเศษ
ผู้เชี่ยวชาญและนักเคลื่อนไหวหลายคน ระบุว่า ป้อมปราการเก่าแก่ในเมืองพัลไมรายังได้รับความเสียหายจาก “ระเบิดถังน้ำมัน” ของกองทัพรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
สงครามกลางเมืองซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 240,000 คนส่งผลให้หลายภูมิภาคในซีเรียอยู่ในสภาพไร้ขื่อแป และกลายเป็นโอกาสให้นักรบญิฮาดไอเอสขยายอิทธิพลได้สะดวก