รอยเตอร์ - รองผู้บัญชาการกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ในอิรักเมื่อวันอังคาร (18 ส.ค.) จากการเปิดเผยของทำเนียบขาวในวันศุกร์ (21 ส.ค.) นับเป็นการเสียท่าอีกครั้งของนักรบกลุ่มนี้ที่ต้องการสถาปนารัฐอิสลามที่ปกครองด้วยระบบคอลีฟะห์ หรือกาหลิบ (Caliphate) ในตะวันออกกลาง
“ฟัดฮิล อาห์เมด อัล-ฮายาลี หรือรู้จักกันในนาม ฮัจจี มูตาซ เสียชีวิตในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองทัพสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ขณกำลังเดินทางโดยยานพาหนะใกล้เมืองโมซุลของอิรัก ร่วมกับนายอาบู อับดุลเลาะห์ ฝ่ายปฏิบัติการสื่อสารมวลชนของไอเอส” เนด ไพรซ์ โฆษกทำเนียบขาวระบุในถ้อยแถลง
“การตายของนายอัล-ฮายาลี จะส่งผลกระทบอย่างเลวร้ายต่อปฏิบัติการต่างๆ ของไอเอส ด้วยอิทธิพลของเขาแผ่ขยายครอบคลุมทั้งด้านการเงิน สื่อสารมวลชน ปฏิบัติการต่างๆ และการส่งกำลังบำรุงของไอเอส” ไพรซ์กล่าว
ทำเนียบขาวเผยว่า แกนนำผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นผู้ประสานงานขั้นแรก สำหรับเคลื่อนย้ายอาวุธ ระเบิด ยานพาหนะและสมุนระหว่างอิรักและซีเรีย ทั้งนี้เขายังรับผิดชอบปฏิบัติการต่างๆ ในอิรักและช่วยวางแผนจู่โจมเมืองโมซุลเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วด้วย
สหรัฐฯ และพันธมิตร ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศแบบรายวันต่อเป้าหมายต่างๆ ของพวกรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้ว เครื่องบินสอดแนมไร้คนขับลำหนึ่ง (โดรน) ก็สามารถสังหารแกนนำระดับอาวุโสของไอเอสอีกคน ในเมืองรักกา ป้อมปราการสำคัญของพวกหัวรุนแรงกลุ่มนี้ในซีเรีย
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านก่อการร้ายคนหนึ่งเตือนว่า การเสียชีวิตของสมาชิกระดับแกนนำจะส่งผลกระทบต่อพวกไอเอสแค่ในระยะสั้นเท่านั้น “จากประสบการณ์ของผมที่เฝ้ามองพวกรัฐอิสลามตลอด ชี้ว่าพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการโยกย้ายคนเข้าสู่ตำแหน่งต่างๆ หลังจากเหล่าผู้ปฏิบัติการระดับสูงเสียชีวิต” เซท โจนส์ อดีตเจ้าหน้าที่เพนตากอนกล่าว