xs
xsm
sm
md
lg

UN เผยยอดผู้อพยพทั่วโลกพุ่ง 244 ล้านคนในปีนี้-ส่วนใหญ่เป็น “คนเอเชีย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ – จำนวนผู้อพยพทั่วโลกพุ่งแตะ 244 ล้านคนในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากสถิติเมื่อปี 2000 ถึง 40% โดยปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ผู้คนตัดสินใจโยกย้ายถิ่นฐานก็คือความจำเป็นทางเศรษฐกิจ ตลาดไร้พรมแดน และความปรารถนาที่จะมีชีวิตที่สุขสบายขึ้น องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงเมื่อวานนี้(18 ธ.ค.)

รายงานของสำนักงานกิจการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (UN Department of Economic and Social Affairs) ระบุว่า ผู้อพยพเกือบครึ่งหนึ่งเกิดในทวีปเอเชีย ซึ่งตลอดช่วง 15 ปีที่ผ่านมาเป็นภูมิภาคที่ผลิตผู้อพยพมากที่สุดราว 1.7 ล้านคนต่อปี ตามมาด้วยอันดับ 2 คือยุโรป

ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เผยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ปีนี้ทวีปยุโรปรองรับผู้ลี้ภัยและผู้อพยพแล้วเกือบ 900,000 คน ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นชาวซีเรียที่หนีภัยสงคราม

แจน เอเลียสสัน รองเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติซึ่งเป็นผู้แถลงรายงานฉบับนี้ เตือนว่า จำนวนผู้อพยพทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างไม่ต้องสงสัย อันเป็นผลมาจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ตลาดไร้พรมแดน และความปรารถนาที่จะมีชีวิตที่สุขสบายขึ้นกว่าเดิม

เอเลียสสัน เรียกร้องให้นานาชาติหามาตรการปกป้องผู้ลี้ภัยที่ยอมเสี่ยงอันตรายในการเดินทางเพื่อแสวงหาที่อยู่ใหม่ รวมถึงสกัดกั้นขบวนการค้ามนุษย์

เขายังเตือนว่าผู้อพยพไม่ควรตกเป็นเหยื่อ หรือ “แพะรับบาป” ของใคร

“เรื่องราวความทรหดอดทน ความเข้มแข็ง และความกล้าหาญของพวกเขา มักถูกบดบังจากความรู้สึกเกลียดชังชาวต่างชาติ และกระแสต่อต้านผู้อพยพ” เอเลียสสัน กล่าว

รายงานฉบับนี้ระบุด้วยว่า 2 ใน 3 ของผู้อพยพย้ายถิ่นฐานทั่วโลกไปปักหลักอยู่ใน 20 ประเทศเท่านั้น โดยมีสหรัฐฯ เป็นจุดหมายปลายทางเบอร์หนึ่ง (47 ล้านคน) รองลงมาคือเยอรมนี (12 ล้านคน) รัสเซีย (12 ล้านคน) และซาอุดีอาระเบีย (10 ล้านคน)

อินเดียถือเป็นประเทศต้นทางที่ผลิตผู้อพยพมากที่สุด โดยมีคนที่เกิดในแดนภารตะย้ายถิ่นไปอยู่ต่างประเทศมากถึง 16 ล้านคน รองลงมาคือ เม็กซิโก รัสเซีย และจีน


กำลังโหลดความคิดเห็น