xs
xsm
sm
md
lg

เจาะลึกที่มาที่ไป เกิร์ลกรุ๊ปสาวโสมแดงเก็บของกลับบ้านปุบปับ

เผยแพร่:   โดย: จอร์จ คู

<i>สมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ปโสมแดง “โมรันบง” แสดงที่กรุงเปียงยาง, เกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2015 </i>
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

How Beijing missed out on a K-Pop cultural event
BY GEORGE KOO 16/12/2015

กรณีเรียกวงเกิร์ลกรุ๊ปโสมแดง “โมรันบง” กลับบ้านด่วน ยกเลิกตารางการแสดงในปักกิ่งอย่างกะทันหัน นับเป็นดราม่าล่าสุดของเกาเหลีเหนือ

เรื่องของลีลาเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ของเกาหลีเหนือนั้น จีนน่าจะเป็นชาติที่ซาบซึ้งดีเกินใครในหล้าโลก กระนั้นก็ตาม ทางการปักกิ่งก็ไม่วายจะอึ้งกิมกี่ เมื่อเจอ“เซอร์ไพร้สเหวี่ยงสะบัด”รายการล่าสุดจากสหายโสมแดง

กรณีเรียกวงเกิร์ลกรุ๊ปโสมแดง “โมรันบง” (Moranbong) กลับบ้านด่วน ยกเลิกตารางการแสดงในปักกิ่งอย่างกะทันหัน นับเป็นดราม่าล่าสุด

โมรันบง แบนด์ อันเป็นวงดนตรีเกิร์ลกรุ๊ปสาวล้วน 21 นาง ที่ท่านผู้นำแห่งดวงใจ คิม จองอึน ปั้นมากับมือ และเลือกเฟ้นสมาชิกวงแต่ละนางด้วยตนเองนั้น มีกำหนดเปิดการแสดงซีรีส์ใหญ่ในกรุงปักกิ่งรวม 3 วันซ้อน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนเชิงวัฒนธรรมในระดับสูงระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือ

ในบ่ายอ่อนๆ ของวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา อันเป็นวันแรกแห่งทริปของคณะนักร้องสาวโสมแดง จู่ๆ บรรดาสมาชิกโมรันบงพากันรีบเดินทางออกจากโรงแรม มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง และขึ้นเครื่องบินโดยสารเกาหลีเหนือเพื่อกลับบ้านในอาการรีบเร่งขนาดที่ว่ากระเป๋าข้าวของสัมภาระส่วนตัวจำนวนหนึ่งของพวกเธอตามไปโหลดขึ้นเครื่องไม่ทัน ป่วยการที่จะต้องระบุว่า กำหนดการแสดงทุกสิ่งล้วนถูกยกเลิกโดยไม่มีการประกาศแจ้งความเปลี่ยนแปลงให้สาธารณชนได้ทราบ ไม่ว่าจะในส่วนของเกาหลีเหนือ หรือจากทางการปักกิ่ง ขณะที่ผู้คนตกอยู่ในภาวะผสมผสานระหว่างข่าวลือและการคาดเก็งไปต่างๆ นานา
<i>ส่วนหนึ่งของวงเกิร์ลกรุ๊ปโสมแดง “โมรันบง” เดินขึ้นรถไฟที่สถานีในกรุงเปียงยาง เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. เพื่อเดินทางไปแสดงที่ปักกิ่ง ซึ่งในที่สุดคิวการแสดงดังกล่าวได้ถูกยกเลิกอย่างกะทันหัน </i>
ประเด็นหนึ่งที่โจษจันกันอื้ออึงมากคือ ประธานาธิบดีคิมแสดงการตอบโต้ต่อการที่สื่อมวลชนจีนตีข่าวมากมายเกี่ยวกับ ฮยอน ซองวอล (Hyon Song Wol) ผู้นำของวงโมรันบง ผู้ซึ่งถูกโจษจันกันมานานว่ามีสัมพันธ์พิเศษกับท่านผู้นำ การโหมกระแสในสื่อมวลชนจีนเกี่ยวกับเรื่องนี้ถูกมองเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีของคิม จองอึน ในการนี้ ข่าวลือเก่าที่แสนจะฉูดฉาดประการหนึ่งได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง คือการที่มีข่าวประโคมไปทั่วโลกว่าท่านผู้นำอันเป็นที่รักของชาวโสมแดง ได้ลงโทษประหารชีวิตของ ฮยอน ซองวอล ในปี 2013

อีกประเด็นหนึ่งที่คาดเดากันหนาหูมีอยู่ว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้ขอให้คณะนักร้องไม่นำเสนอเพลงที่เป็นธีมความรักชาติและการปฏิวัติ อาทิ เพลงสรรเสริญท่านผู้นำที่รักยิ่งของชาวโสมแดง นี่ก็อีกที่ถือว่าเป็นการหยามหมิ่นคิม จองอึน จนนำไปสู่การยกเลิกกำหนดการอย่างกะทันหัน

ใช่แต่เท่านั้น เรื่องราวอันซับซ้อนอย่างยิ่งในพัฒนาการสายสัมพันธ์จีน-เกาหลีเหนือ ที่กลายมาเป็นสัมพันธ์เปรี้ยวสองชาติ ก็เป็นอีกประการหนึ่งที่ถูกวิเคราะห์อย่างกว้างขวาง กล่าวคือ ประธานาธิบดีคิมได้วางบทบาทให้การแลกเปลี่ยนเชิงวัฒนธรรมครั้งนี้เป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ระดับสูง เพื่อก่อสะพานนำสู่การริเริ่มเปิดวาระหารือที่จะทาบทามเชิญตนไปเยี่ยมปักกิ่งอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อฝ่ายปักกิ่งแสดงท่าทีไม่เอออวยตาม ผลสืบเนื่องย่อมหนีไม่พ้นการบาดหมางต่อเกียรติยศของผู้นำโสมแดง รายละเอียดของเรื่องมีดังนี้

ทางการปักกิ่งออกอาการไม่อนุโมทนากับการที่จู่ๆ ท่านผู้นำโสมแดงลุกขึ้นประกาศว่า บัดนี้ เกาหลีเหนือมีระเบิดไฮโดรเจนอยู่ในคลังอาวุธแล้ว แน่นอนว่าปักกิ่งมีเหตุผลหลายหลากประการที่จะรู้สึกว่า ถ้อยวจีดังกล่าวมิใช่เสียงดนตรีที่รื่นหูสำหรับจีน และจีนย่อมจะต้องคลางใจว่า การที่คิม จองอึนเลือกฤกษ์ยามที่จะมาอวดพัฒนาการอาวุธร้ายแรงกันในวันที่คณะนักร้องโมรันบงเข้ามาเหยียบแผ่นดินจีนนั้น เป็นวิธีของประธานาธิบดีคิมในการยื่นจมูกเข้าสู่ปักกิ่งหรืออย่างไร

การณ์จึงปรากฏว่าจีนได้จัดวางให้มีเพียงเจ้าหน้าที่ระดับล่างลงมา ไปเข้ารับชมการแสดงระดับพรีเมียมที่เกาหลีเหนือนำไปโชว์เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระดับสูงครั้งนี้ โดยที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงอื่นๆ จะไม่เข้าชม เมื่อประจักษ์ว่าปักกิ่งไม่เอออวยตามเกม การโต้ตอบจากประธานาธิบดีคิมจึงแรงระดับขีปนาวุธ ประเภทว่าสั่งคณะนักดนตรีถอนกำลังกลับบ้านอย่างด่วน

ประเด็นที่ยังไม่แน่ชัดคือว่า การลดเกรดให้ผู้เข้าชมการแสดงเป็นเฉพาะแขกรับเชิญนั้น ที่แท้แล้วคือวิธีของทางการปักกิ่งที่จะแสดงความไม่เห็นด้วยกับการประกาศเรื่องระเบิดไฮโดรเจนหรือไม่ หรือทั้งหลายทั้งปวงนี้เป็นเพียงเรื่องที่ว่า ผู้บริหารของจีนในตำแหน่งสูงๆ ไม่ได้เป็นแฟนดนตรีของคณะเค-ป๊อปโสมแดง?

ในอันที่จะโต้ตอบกับมาตรการของโสมแดงที่ถอนคณะนักดนตรีกลับเปียงยางอย่างปุบปับ ทางการปักกิ่งส่งทหาร 2,000 นายไปยังชายแดนเกาหลีเหนือ ประมาณว่าเป็นมาตรการปลอดภัยไว้ก่อนของจีน ซึ่งก็สมด้วยเหตุผลทีเดียว กล่าวคือ รายงานข่าวของสื่อมวลชนในเกาหลีใต้นำเสนอว่า หลังจากที่เกิร์ลกรุ๊ปโมรันบงถอนตัวกลับเปียงยางแล้ว ชาวจีนที่อาศัยอยู่ในเปียงยางกว่า 100 รายถูกจับกุมและไต่สวนในข้อหามีการดำเนินการที่อาจเป็นจารกรรมเพื่อประโยชน์ของประเทศจีน ขณะที่การเดินทางติดต่อธุรกิจต่างๆ ของเอกอัครราชทูตจีนประจำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ภายในกรุงเปียงยางก็ถูกติดตามสอดส่อง

แทนที่เกิร์ลกรุ๊ปโมรันบงจะได้ส่งเสริมให้ความสัมพันธ์มีความอบอุ่นแน่นแฟ้นขึ้นในระหว่างเปียงยางกับปักกิ่ง กลับกลายเป็นว่าผลสุดท้ายแล้วกิจกรรมนี้ต้องปิดฉากในทิศทางตรงข้าม และความสัมพันธ์สองชาติเพื่อนบ้านคู่นี้ ก็ยิ่งทวีความตึงเครียดมากกว่าก่อน

ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่านับจากที่คิม จองอึนขึ้นสู่อำนาจในเดือนธันวาคม 2011 หลังอสัญกรรมของผู้เป็นบิดา แต่ที่ผ่านมาเขายังไม่ได้พบปะกับสี จิ้นผิง ภารกิจเรื่องนี้จึงน่าจะเกาะติดอยู่ในใจของผู้นำโสมแดงไม่มากก็น้อย ในเมื่อจำนวนครั้งที่ประธานาธิบดีสี กับประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ได้นั่งโต๊ะพูดคุยกันแล้ว เป็นตัวเลขที่มากกว่าครึ่งโหล
<i>สมาชิกของวง “โมรันบง” ขณะยืนคอยอยู่ในล็อบบี้ของโรงแรมกลางกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. </i>
พฤติกรรมลมเพลมพัดและออกแนวแรงของประธานาธิบดีหนุ่มอย่างคิม ผู้กำลังจะเจริญวัยครบ 33 ปีในเดือนมกราคมศกหน้า ทำให้เขาไม่ค่อยน่ารักสำหรับจีน กระนั้นก็ตาม เจ้าตัวยังเชื่อว่าตนจะสามารถฉวยใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ทวิภาคีนี้ได้อย่างไร้ขีดจำกัดเสมอ

ในการนี้ แม้ผู้เขียนบทวิเคราะห์ชิ้นนี้เคยชี้ประเด็นไว้ในข้อเขียนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ว่า จะต้องมีการสร้างพันธมิตรสามเส้าระหว่างจีน เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา จึงจะตะล่อมเอาเกาหลีเหนือได้อยู่หมัด แต่ทางเลือกตรงนี้มีแววไม่มาก เพราะตราบที่ประธานาธิบดีคิมยังมองว่าความสัมพันธ์ของเขากับจีนเป็นเสมือน “ริมฝีปากกับฟัน” และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ตราบที่จีนยังต้องเหนียวแน่นอยู่กับ “ริมฝีปาก” เพื่อต้านทานคู่หูการทหารอย่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ คิมย่อมจะสามารถร็อกแอนด์โรลเข้าใส่พันธมิตรหนึ่งเดียวของตนไปได้เรื่อยๆ

ดังนั้น สิ่งที่ปักกิ่งสูญเสียคือ โอกาสที่จะได้ยลหญิงสาว 21 นางในชุดกระโปรงเหนือเข่า นำเสนอการแสดงในสไตล์เค-ป๊อบยอดนิยมมากมายในเกาหลีใต้ โดยเค-ป๊อบเวอร์ชั่นเกาหลีเหนือจะมีทั้งเครื่องสาย กีตาร์ ซินธิไซเซอร์ และเพอร์คัชชัน เข้าไปในจังหวะดนตรีที่เป๊ะสุดๆ

ในเวลาเดียวกัน ก็เกิดเหตุประจวบเหมาะสุดๆ ที่คงจะนำมาผสานกับเรื่องราวของโมรันบง แบนด์ ไม่ได้ เมื่อเหตุการณ์กลุ่มเค-ป๊อบสาวฮ็อตจากเกาหลีใต้ นามว่า “Oh My Girl” ถูกกักตัวที่ท่าอากาศยานระหว่างประเทศลอสแองเจลิส เพราะต้องสงสัยว่าเป็นแรงงานค้ากาม ประจวบเหมาะมาเกิดขึ้นในห้วงเวลาเดียวกับที่เค-ป๊อบสาวล้วนโมรันบง แบนด์ เข้าเช็คอินที่โรงแรมในปักกิ่ง หลังจากถูกกักตัวนาน 15 ชั่วโมงสาวๆ Oh My Girl ทั้ง 8 ถูกส่งตัวขึ้นเครื่องบิน เดินทางกลับกรุงโซล ดังนั้น อเมริกาก็พลาดโอกาสเช่นกัน เพราะอาจเป็นได้ว่าสาวสวยกลุ่มแปดนางจะแต่งกายปลุกเร้าได้มากกว่าในยามที่ขึ้นแสดงบนเวที

(ความคิดเห็นที่ปรากฏในข้อเขียนนี้เป็นของผู้เขียนเอง ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการสะท้อนทัศนะของเอเชียไทมส์)

ดร. จอร์จ คู เพิ่งเกษียณอายุเมื่อไม่นานมานี้จากสำนักงานให้บริการด้านคำปรึกษาระดับโลกแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาได้ให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเกี่ยวกับยุทธศาสตร์และการดำเนินการทางธุรกิจ ของพวกเขาในประเทศจีน เขาสำเร็จการศึกษาจาก MIT, Stevens Institute, และ Santa Clara University และเป็นผู้ก่อตั้งตลอดจนเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการของ International Strategic Alliances เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของ the Committee of 100, the Pacific Council for International Policy และเป็นกรรมการคนหนึ่งของ New America Media

กำลังโหลดความคิดเห็น